Page 158 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 158

154
ทาหน้าที่รู้เรื่องราว/อารมณ์ต่าง ๆ ก็ยังต้องสังเกตตัวเองว่ามีการเกิดดับ ด้วยหรือเปล่า เพราะการพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์หรืออาการเกิด ดับของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ขันธ์ทั้งห้านี่ เป็นธรรมะที่จะ สามารถพิสูจน์ได้ทุก ๆ คน
ใครก็ตามที่อยากพิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้า คาสอนที่บอก ว่า รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น อนัตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เป็นแต่เพียงรูปกับนามที่กาลัง เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่นนี้ั่นแหละเมื่อไหร่ก็ตามที่จะพิสูจน์ธรรมะ ของพระพทุ ธเจา้ วา่ เปน็ จรงิ หรอื เปลา่ เราพสิ จู นไ์ ดต้ ลอดเวลา และทสี่ า คญั ก็คือว่าการที่พิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ตรงนี้ คาว่า “ชาระจิต” การทา จิตใจให้มีความสงบ มีความตั้งมั่น มีความผ่องใส มีความสะอาดมากขึ้น ก็ด้วยอาศัยการกาหนดรู้อาการเกิดดับของรูปนามขันธ์ห้านี่แหละ พิสูจน์ ได้ด้วยตัวเอง เป็นปัจจัตตัง ถ้าใครอยากรู้ ก็ลองดู น้อมนาคาสอนของ พระองค์มาพิจารณา ดูตรงไหน ? ดูที่กาย ดูที่จิตของเรานี่แหละ
เริ่มต้นด้วยการพิจารณาอาการเกิดดับของลมหายใจเข้าออก การ เกดิ การดบั มแี ลว้ หมดไป มแี ลว้ หายไปของอาการพองยบุ ตามรอู้ าการเกดิ ด บั ข อ ง อ า ก า ร เ ต น้ ข อ ง ห วั ใ จ อ า ก า ร ก ร ะ เ พ อื ่ ม ไ ห ว อ า ก า ร ว บู ว า บ ส แี ส ง ท เี ่ ก ดิ ขึ้นข้างหน้า ตามรู้อาการเกิดดับของจิตที่ทาหน้าที่รับรู้อารมณ์นั้น ๆ ตาม รู้อาการเกิดดับของทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้น แล้วจะเห็นด้วยตัวเองว่าการ ชาระจิตใจ/การทาจิตให้ผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร จิตที่ผ่องใสที่สว่างนั้นเป็น อยา่ งไร สะอาดขาวรอบนนั้ เปน็ อยา่ งไร... ไมม่ อี กศุ ลอะไรเขา้ ไปเจอื ปนอยู่ มีแต่ความผ่องใส มีความสว่าง มีความสะอาด มีแต่ความบริสุทธิ์ที่เกิด ขึ้นภายในอยู่ นอกจากเกิดขึ้นภายในแล้วยังกว้างออกไปแผ่ไปภายนอก


































































































   156   157   158   159   160