Page 159 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 159
แม้แต่อยู่รอบตัวของเรา
ตรงนี้แหละ คาว่าการชาระจิตของตนให้ขาวรอบในโอวาทของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเราจะเห็นว่าการที่น้อมนาธรรมะ ของพระองค์ และพิจารณาด้วยเหตุผลของเรา/ด้วยความรู้ของเราอย่าง เดียว โดยที่ไม่ลงมือปฏิบัติ แค่อาศัยจินตมยปัญญาพิจารณาอย่างเดียว นนั้ ยากนกั ทจี่ ะเหน็ ถงึ ลกั ษณะของสภาพจติ ทบี่ รสิ ทุ ธทิ์ ผี่ อ่ งใส อาจจะเหน็ ได้ถึงเจตนาที่บริสุทธิ์ของตนเอง เจตนาที่ดีมีความปรารถนาดีต่อผู้อื่นอยู่ เนือง ๆ ต่อสิ่งอื่นอยู่เสมอ ๆ แต่การที่เห็นถึงจิตที่ผ่องใส สะอาดบริสุทธิ์ มีความละเอียดอ่อน มีความบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นไป ก็ต้องอาศัยการเห็นจิต ในจิต เขาเรียกว่า “ดูจิตในจิต”
เพราะฉะนนั้วปิสัสนากรรมฐานจงึเป็นแนวทางทสี่าคญัอยา่งยงิ่ที่ จะนา มาเปน็ หลกั ในการปฏบิ ตั ใิ นการเจรญิ รอยตามองคส์ มเดจ็ พระสมั มา สัมพุทธเจ้า เราได้ยินได้ฟังว่าพระองค์นั้นทรงเป็นผู้มีเมตตาสูงสุด เป็นผู้ มีความกรุณาอันยิ่งใหญ่ มีความปรารถนาดีต่อสัตว์โลกทั้งหลาย อย่างที่ บอกแลว้ มคี วามปรารถนาเดยี ว คอื ใหส้ ตั วโ์ ลก/มนษุ ยโ์ ลกทงั้ หลายไดพ้ บ กับความอิสระ ความสงบ ความร่มเย็น ความไม่ถูกพันธนาการด้วยโลภะ โทสะ โมหะ ไม่ถูกความเร่าร้อนครอบงา
ใครก็ตามที่น้อมนาคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทาให้เกิดให้มีขึ้นในใจแล้ว ย่อมเป็นบุญเป็นกุศลเป็นมงคลอย่างยิ่งกับ บุคคลนั้น ๆ เราเป็นสาวก เราเป็นชาวพุทธ เป็นผู้มีปัญญา เมื่อได้ฟัง ธรรมคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ควรน้อมเข้ามา ใส่ตัวให้เกิดให้มีขึ้น ให้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต เป็นแนวทางใน ก า ร ป ฏ บิ ตั ธิ ร ร ม อ ย า่ ง ท เี ่ ร า ส ว ด ม น ต ์ เ ป น็ ก า ร ก ล า่ ว ค า ส ร ร เ ส ร ญิ พ ร ะ ธ ร ร ม
155