Page 194 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 194
190
ใช้ความรู้สึกที่ไม่มีตัวตนไปกาหนดรู้อารมณ์ให้มากที่สุด ทุก ๆ อารมณ์ที่ เกิดขึ้นหรือเฉพาะความคิดก็ได้ อารมณ์ที่เกิดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จะใช้จิตที่ไม่มีตัวตนในการรับรู้ให้มากที่สุด แล้วลองดูว่าผลที่ตามมาเป็น อย่างไร ทาแล้วต้องดูผล ไม่ใช่สักแต่ว่าทาได้/ไม่ได้ ทาทัน/ไม่ทัน เดี๋ยว หลุด/เดี๋ยวไม่ทัน... พอทาทันเป็นยังไง ? เฉย ๆ ไม่ได้ดู ทันแล้วก็ไม่ได้ดู ว่าผลเป็นยังไง อ้าว! แล้วทาไปทาไม!? ก็ทําให้ทัน ทันแล้วก็ไม่รู้อะไรเกิด ขึ้นอีก!
ทาแล้วต้องรู้ผลที่ตามมาเพราะเราเป็นไปตามกรรม แล้วที่เราทา ตรงนี้ทาเพื่ออะไร ? สมัยก่อนอย่างที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่า เวลาโยคีมา ปฏบิ ตั ธิ รรม อาจารยจ์ ะถามกอ่ นวา่ มาทา ไม มาเพอื่ อะไร รนู้ ะเขา้ มาปฏบิ ตั ิ ธรรม ปฏิบัติทาไม ? ปฏิบัติเพื่ออะไร ? เอ้ํา! ก็มําปฏิบัติธรรมต้องถํามว่ํา ปฏิบัติเพื่ออะไรอีกเหรอ ? ต้องรู้สิ เราต้องรู้ตัวเองว่าเราปฏิบัติทาไม ถ้า ไม่รู้...พวกเราหาคาตอบให้ตัวเองไม่ได้ ปฏิบัติไป ปฏิบัติไป... แล้วดูอะไร บา้ ง ? แลว้ ไดอ้ ะไร ? เกดิ อะไรขนึ้ ? ไมร่ เู้ หตแุ ละผล รแู้ ตอ่ ยาก อยากแลว้ ตอ้ งรเู้ หตวุ า่ ทเี่ ราทา เปน็ อยา่ งไร ทา แลว้ เปน็ อยา่ งไร จะไดร้ วู้ า่ วธิ ที า ของเรา/ วิธีกาหนดสภาวะของเราเป็นอย่างไร แล้วจะแก้แบบไหน จะปรับปรุงตรง ไหน จะพัฒนาตรงไหนถึงจะเกิดขึ้นได้ อันนี้แหละคือสิ่งสาคัญ
เพราะฉะนนั้ อยา่ งทเี่ รามาปฏบิ ตั นิ เี่ รากต็ อ้ งใสใ่ จ ทอี่ าจารยใ์ หต้ งั้ คา อธษิ ฐานวา่ “ขา้ พเจา้ ขอสมาทานซงึ่ วปิ สั สนากรรมฐาน ขอใหก้ ารปฏบิ ตั ขิ อง ข้าพเจ้า จงเป็นไปเพื่อมรรค ผล นิพพาน โดยฉับพลันเทอญ” ที่ตั้งอย่าง นี้เพื่อย่อให้กระชับ เรามีเป้าหมายในการปฏิบัติที่ชัดเจน มีตัวมุ่ง นี่คือคา อธิษฐานและต้องเป็นอย่างนั้น เรารู้ว่าทาเพื่อให้เข้าถึงมรรค ผล นิพพาน โดยฉับพลัน จิตต้องมุ่ง แล้วสิ่งที่ต้องทาคืออะไร ? ถ้าเพื่อไปมรรค ผล