Page 251 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 251
คือธรรมชาติของรูปหรือธรรมชาติของตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเราหรือตัวใคร ก็ตาม เมื่อได้เกิดขึ้นมาในโลกนี้แล้วก็ย่อมทาหน้าที่ของตนแบบนี้เสมอ มี ลมหายใจเข้า-ออกเพื่อการตั้งอยู่ของชีวิตอันนี้ แล้วก็มีจิตที่ทาหน้าที่รู้อยู่
สังเกตอย่างไรถึงจะเห็นสัจธรรมความจริง ? สัจธรรมความจริง อย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของกาย อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า กายที่มีการ เปลี่ยนแปลง ลมหายใจที่เปลี่ยนไปอยู่นั้น ลองสังเกตดูว่า จิตที่ทาหน้าที่รู้ กบั ลมหายใจ หรอื สตทิ ที่ า หนา้ ทรี่ กู้ บั อาการของลมหายใจ เปน็ สว่ นเดยี วกนั ห ร อื ค น ล ะ ส ว่ น ก นั อ นั น เี ้ ป น็ ส งิ ่ ส า ค ญั ท า ไ ม ถ งึ ถ า ม ย า ้ อ ย เ่ ู ส ม อ ว า่ “ อ า ก า ร ท ี ่ เกดิ ขนึ้ ” กบั “จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ”ู้ เปน็ สว่ นเดยี วกนั หรอื คนละสว่ นกนั ? เพราะ ถา้ เราเหน็ วา่ อาการทางกายทปี่ รากฏขนึ้ มากบั จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ เู้ ปน็ คนละสว่ น กัน อันไหนที่บอกว่าเป็นตัวเรา อันไหนที่บอกว่าเป็นของเรา หรืออาการ ทางกายที่เกิดขึ้นบอกว่าเป็นเราไหม หรือจิตที่ทาหน้าที่รู้บอกว่าเป็นเรา หรือเปล่า หรือมีแต่จิตที่ทาหน้าที่ตามปกติของตนของตนเท่านั้นเอง ?
จิตก็เกิดขึ้นมาทาหน้าที่ของตนไป เป็นสภาวธรรมตามธรรมชาติ ที่กาลังเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปเป็นปกติธรรมดา ไม่ได้บอกว่าเป็นเราเป็น เขาหรือเป็นใคร อันนี้คือจุดสาคัญที่ผู้ปฏิบัติ หรือผู้ที่ต้องการชาระจิตใจ ต้องการละอุปาทาน ละความเข้าใจผิด ละการยึดติดว่าเป็นตัวเราของเรา ก็ต้องพิจารณาแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่สติ สมาธิ ปัญญาเกิดขึ้นมาได้เห็น ความจริงตรงนี้ จิตก็จะคลายจากอุปาทาน และทุกครั้งที่จิตคลายจาก อุปาทาน ก็จะเกิดความโล่ง ความโปร่ง ความเบา ความสงบขึ้นมา ตรงที่ คลายอุปาทานนี่แหละเราเรียกว่า “ปล่อยวาง” ปล่อยวางอะไร ? ละความ เขา้ ใจผดิ ละวางอตั ตา ละวางความรสู้ กึ วา่ เปน็ เรา ขณะทไี่ มม่ อี ปุ าทาน ไมม่ ี ตัวตน ไม่เข้าไปยึดว่าเป็นเรา จิตอิสระขึ้นไหม สบายขึ้นไหม ?
247
