Page 25 - เวทนา
P. 25

19
อย่างที่บอกเมื่อกี้ว่า พอเวทนาดับ-จิตดับด้วยหรือเปล่า ? เวทนาดับ- เวทนาดับ- แล้วขณะท่ีจิตดับไป เหลือความเป็นเรา เหลือความเป็นรูป ไหม รูปนามอันนี้เหลือ หรือดับแล้วเกลี้ยง ดับแล้วเกลี้ยงไป ? แม้แต่จิตท่ี เกิดข้ึนมา-รู้แล้ว-ก็ดับไป เกิดข้ึนมา-รู้ใหม่-ดับใหม่ จะได้เห็นชัดด้วยตาปัญญาของผู้ปฏิบัติเอง พอ เห็นด้วยตัวเองเม่ือไหร่ วิจิกิจฉาหรือความเคลือบแคลงความลังเลสงสัย ย่ิงถ้าไม่เคยสงสัย มาก่อน จิตก็จะยิ่งมีความเชื่อมั่นศรัทธามีความเล่ือมใสในพระพุทธเจ้า ในพระพุทธศาสนายิ่งขึ้นไป ตรงนี้แหละเรียกว่าศรัทธาพละ ยิ่งศรัทธา จิตย่ิงมีพลัง พระไตรลักษณ์ให้แยบคายยิ่ง ๆ ข้ึนไป เพราะปัญญาเกิดแล้ว ถ้าศรัทธา จิตก็จะมีพลังมากข้ึนอีก
เพราะฉะน้ัน ๆ ด้วย ตาปญั ญาของตนเอง จงึ เรยี กวา่ “รแู้ จง้ เหน็ จรงิ ในสจั ธรรมทเี่ กดิ ขนึ้ ” ไมใ่ ช่ แค่คิดว่า คิดว่าน่าจะเป็นอย่างน้ันน่าจะเป็นอย่างนี้ การพิจารณาแบบน้ี น่ีแหละจะได้เห็นถึงว่าธรรมะท่ีพระพุทธองค์ตรัสไว้น้ันทนต่อการพิสูจน์ ให้พิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้าด้วยตนเองอยา่ไปพิสูจน์คนอื่น!อยา่ไป พิสูจน์คนอื่นว่าคนน้ีปฏิบัติธรรมแล้วดีจริงหรือเปล่า คนเรามีจริตแตกต่างกัน มีมุมมองที่แตกต่างกัน ถึงแม้จะสภาวะเหมือนกัน จิตมีความสงบตั้งม่ัน เหมือนกัน เหมือนกัน แต่มุมมองในอารมณ์น้ันมีความแตกต่างกันไป เพราะ เพราะ ต่างจริตกัน เพราะฉะนั้น จะต้องพิจารณาต้องเข้าใจอย่างน้ี การท่ีจะไป ทดลองหรือทดสอบคนอื่นดูว่ามีธรรมะแล้วจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไหม
































































































   23   24   25   26   27