Page 36 - เวทนา
P. 36
30
ไม่ได้ให้หยุดพัก แต่ว่าเป็นลักษณะของจิตที่ถูกตัดไป อาการของรูปนาม ที่ดับไปในแต่ละขณะ ตรงน้ีเป็นปัญญาวิปัสสนาที่เป็นภาวนามยปัญญา “รูปนามเกิดดับ” เวทนาเกิดดับ ใจรู้เกิดดับ วิถีรูป วิถีนาม อาการธรรมชาติของสภาวธรรมตรงนี้ ก็จะมีความชัดเจนมากข้ึน
การพิจารณาถึงสภาวธรรมที่เกิดขึ้นจริง ๆ น้ัน อีกสิ่งหนึ่งที่พึง พิจารณาก็คือว่า พอยกจิตข้ึนสู่ความว่าง พิจารณาถึงความเป็นคนละส่วนแล้ว ที่ถามว่า อาการของเวทนาที่เกิดข้ึนบอกว่าเป็นเราไหม ? ? บอกว่าเป็นเราหรือเปล่า ? ? ให้ผู้ปฏิบัตินั้นไม่หลง จะได้ไม่เข้าใจคลาดเคล่ือนหรือไม่เข้าใจผิดว่า แต่ เพ่ือปัญญา เพื่อความเข้าใจให้แยบคายให้ลึกซึ้งในธรรมะในสัจธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ เพราะฉะนั้น ที่เกิดขึ้นมาน้ัน ให้ชัดเจน ปวดมากจนทนไม่ได้ ถ้าทนต่อไปอีก คงจะลม้ เลกิ การปฏบิ ตั แิ นน่ อน อน เพราะมนั บบี คน้ั มาก มาก ๆ ถา้ เราจะไมก่ า า า า า า า า า า า า า า า า า า หนด เวทนานน้ั ไดไ้ หม เปลย่ี นอริ ยิ าบถเลยไดห้ รอื เปลา่ ? อนั นก้ี ต็ อ้ งมาพจิ ารณา เหตุปัจจัยท่ีประกอบกัน
ถ้าไม่ก�าหนดรู้อาการเกิดดับของเวทนา แต่ยังสามารถก�าหนดรู้ อาการเกิดดับของรูปนามในอารมณ์อื่น ๆ ได้ ได้ เพ่ือไม่ต้องต่อสู้กับเวทนามากเกินไป ประเด็นคือ ถ้าสภาวะอื่นมีความชัดเจน มากกว่า และสภาวญาณยังปรากฏต่อเนื่องได้ ก็สามารถ เปลี่ยนอารมณ์ได้ แต่ช่วงสภาวญาณที่เวทนาปรากฏชัดเจนนั้นส่วนใหญ่แล้ว โยคีไม่สามารถไปเลือกอารมณ์อ่ืนได้เลย เพราะมีเวทนาเป็นประธาน