Page 240 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 240

222
จิตที่งดงามจิตที่วิจิตร บ่งบอกถึงความดีที่เกิดขึ้น คาว่า ติดไม่ติด ยึดไม่ยึด สวยไม่สวย สังเกตง่าย ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่จิตเราไม่ดีจิตเป็นอกุศล ภาพอะไร ก็ตามที่อยู่รอบตัวเรา ที่เคยเห็นว่าสวยงาม ไม่เข้าตาสักอย่าง! พอจิตเราดี ที่ ไม่ดีก็ดีไปหมดเลย! เพราะจิตเป็นกุศล เห็นอะไรก็เป็นกุศล เพราะฉะนั้น จุดที่สาคัญ จิตที่เป็นกุศลเกิดขึ้น เขาย่อมส่งผลที่ดีต่อเรา ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว
พระพุทธเจ้าบอกให้เรารักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว และก็เพียรละ อกุศลที่กาลังมีอยู่ ป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น ทาไมถึงให้รักษา กุศลเอาไว้ ? เพราะจิตที่เป็นกุศลก็จะเป็นกาลังส่งเสริมฝ่ายกุศลให้ดีขึ้น ถ้า เรากลัวความเป็นกุศล ก็ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติทาไมนะ ? จิตเป็นมหากุศล แล้ว ทาไมเราต้องกังวล ต้องกลัว ? ปฏิบัติไป แล้วจิตเรายิ่งผ่องใส แล้วเราจะรู้ ว่ามีคุณกับเราอย่างไร อานิสงส์ของการปฏิบัติของเรา อันนี้พูดถึงปัจจุบันนะ พูดถึงแค่สภาพจิตที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง ว่าถ้าสภาวะเหล่านี้เกิดขึ้น ให้เรารู้ และแยกให้ชัดว่า ขณะที่อารมณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น จิตเราเป็นกุศลหรืออกุศล รับรู้ด้วยความรู้สึกที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตน ถ้าไม่มีตัวตนก็ไม่ต้องกังวล
เพราะฉะนนั้ เราตอ้ งประกอบดว้ ยเจตนาวา่ จะรบั รเู้ รอื่ งราวแบบทวั่ ไป หรอื รแู้ บบกา หนดรู้ ยกจติ ขนึ้ สวู่ ปิ สั สนา คอื รอู้ าการเกดิ ดบั ของรปู นามไปดว้ ย เวลาเราทางานเสร็จ นั่งพัก ๕ นาที ๑๐ นาที ก็ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง ความ สงบ เราก็รู้อาการเกิดดับไปได้ ใช้เวลาสั้น ๆ ก็ทาได้ตลอด เพราะฉะนั้น การเจริญวิปัสสนา เราสามารถเจริญได้ตลอดเวลา ทุกที่ ไม่จากัดกาล พอใจ กาหนดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น! และธรรมะ ความสุข ความสงบ ความว่าง ความ ผ่องใสของจิต เขาเกิดได้ตลอดเวลา ไม่จากัดกาลเหมือนกัน เมื่อไหร่ที่จิต เราว่าง เขาก็จะเบา เมื่อไหร่ที่จิตเราตื่นตัว ก็จะผ่องใสขึ้น โดยธรรมชาติของ เขาเอง
และอีกอย่างหนึ่ง พูดค้างเอาไว้ ที่บอกว่าเวลากาหนดอารมณ์ ให้รู้ว่า เวลาเรานั่ง เรากาหนด “อะไร” นอกจากรู้ว่ากาหนดความคิด กาหนดเวทนา


































































































   238   239   240   241   242