Page 251 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 251

233
ว่าเป็นไปเพื่ออะไร เจตนาในการกาหนดรู้อาการของรูปนามที่กาลังปรากฏ อยู่นั้นจะกาหนดรู้อะไร รู้ในลักษณะอย่างไรถึงจะเป็นไปตามแนวทางที่เรา ปรารถนา หรือตามเป้าหมายที่เราต้องการ
สภาวธรรมในธรรม ตามรู้อาการของสภาวธรรมที่เกิดขึ้น สภาวธรรม ก็คือ อาการของรูปนามที่กาลังปรากฏอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง ทั้งอารมณ์ภายใน และอารมณ์ภายนอก ทั้งที่ดีและไม่ดี ไม่ดีเป็นอกุศลธรรม ดีเป็นกุศลธรรม ทั้งกุศลและอกุศลที่เกิดขึ้นมาล้วนตั้งอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ เกิดขึ้นมาแล้ว ดับไป มีแล้วหายไป อารมณ์ที่ปรากฏทางตา จะเป็นวิบากฝ่ายกุศลหรือฝ่าย อกุศล อารมณ์ที่ปรากฏทางหู อาจจะเป็นวิบากฝ่ายกุศลหรือฝ่ายอกุศล
อย่างเช่น อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่ไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้น เหมือนวิบาก เข้ามาปรากฏให้เราได้รับรู้ ถ้าอารมณ์นั้นเข้ามากระทบ รับรู้แล้วเรารู้สึก หงุดหงิด เราก็เสวยอารมณ์อันนั้นไป เราก็รับไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่กระทบ มีผัสสะ มีเวทนาเกิดขึ้น แล้วก็จบไปดับไป หรือแปลบเข้ามาแล้วก็ดับไป หายไป ไม่มีผู้เสวยอารมณ์นั้น ก็เป็นเพียงแค่ผู้รู้ การหมุนเวียนของอารมณ์ ก็จบตรงที่ผัสสะกับเวทนาแล้วก็ดับไป ตัณหาอุปาทานไม่เกิด องค์ของ ปฏิจจสมุปบาทก็จบลงไปด้วย ในแต่ละอารมณ์ ในแต่ละขณะ ในแต่ละ อาการ
การพิจารณาดูธรรมในธรรมเพื่ออะไร ? เราจะได้เห็นความเป็นจริง ของรูปนามขันธ์ ๕ สภาวธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นมา ที่เรากาหนดรู้ ที่ เป็นไปเพื่อความดับทุกข์จริง ๆ ก็คืออาการของรูปนามขันธ์ ๕ เองที่กาลัง ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ขณะนี้ เดี๋ยวนี้แหละ ไม่ได้อยู่ไกลเลย ถ้าเราไปดูการ เสื่อมสลายของวัตถุ ความไม่เที่ยงของวัตถุ แม้เราจะเห็นอาคารพังทลายไป ใจเราก็ยังเฉย บางทีอาคารอายุยืนกว่าเราอีก บางทีเราสร้างขึ้นมา แล้วก็ไป นั่งดูว่าเมื่อไหร่มันจะพัง หรือว่าเมื่อไหร่จะเสื่อมสลาย แต่รูปนามขันธ์ ๕ ของเรานี้แสดงอาการพระไตรลักษณ์อยู่ตลอดเวลา มีการเปลี่ยนแปลง เกิด


































































































   249   250   251   252   253