Page 367 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 367

349
เจตนาของเราว่า ที่เราปฏิบัติเป็นไปเพื่ออะไร ? เราต้องการอะไร ? เราจะหา ได้ง่าย ถ้าไม่รู้เจตนาไม่รู้เป้าหมาย การปฏิบัติของเราก็จะเป็นเรื่องยาก หรือปฏิบัติถูกหรือไม่ ก็ไม่รู้
อย่างบางท่านอยากได้ฌาน ปฏิบัตินั่งสมาธิต้องการความสงบ อยากได้ฌาน อยากเข้าฌานให้ได้ แต่ทุกครั้งที่ปฏิบัติ นั่งเมื่อไหร่ก็เข้า ฌานเข้าฌาน แต่ไม่รู้ว่านั่นคือการเข้าฌาน เพราะไม่รู้ว่าฌานเป็นอย่างไร ก็เลยกลายเป็นว่าติดอยู่กับความสงบ แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือพอนั่งเมื่อไหร่ ปฏิบัติเมื่อไหร่ ก็ต้องการความสงบอย่างเดียว พอไม่สงบก็จะรู้สึกหงุดหงิด ราคาญตัวเองว่าปฏิบัติไม่ได้ คือพอเริ่มนั่ง เริ่มหลับตา ก็มีความคิดเข้ามา มีความคิดเข้ามาก็จะรู้สึกวันนี้นั่งไม่ได้ วันไหนที่พอเริ่มหลับตาแล้วลมหายใจ ชัด ตามรู้ลมหายใจได้ แล้วจิตสงบ ก็จะรู้สึกว่าวันนี้เข้าสมาธิได้ดี
แต่ว่าโดยสภาวะจริง ๆ ในขณะที่เรานั่งสมาธิ สิ่งที่เขาจะเกิดขึ้น แน่นอนก็คือ หนึ่ง..อาการของลมหายใจ หายใจเข้าหายใจออก บางทีก็จะ ชัดที่ท้องที่เรียกว่าพองยุบ บางคนก็จะชัดที่ท้อง หายใจเข้าท้องพองออก หายใจออกท้องยุบลง บางคนก็ชัดที่ลมหายใจเข้าออกที่ปลายจมูก อันนี้ เขาเรียกลมหายใจ จะเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแต่ว่าจะเกิดระยะสั้นหรือจะ เกิดอยู่นาน ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือเวทนา เวทนาในที่นี้หมายถึงความปวด อาการเมื่อย อาการชา อาการคันต่าง ๆ เวลาเรานั่งปฏิบัติ บางทีนั่งสักพักก็ จะรู้สึกปวด เมื่อย นั่งไม่ไหว ต้องขยับ ปวดมาก ๆ แบบนี้เขาเรียกว่าเวทนา
อีกอย่างหนึ่งก็คือความคิด ที่พูดแล้วก็คือ พอนั่งมีแต่ความคิด เยอะแยะมากมายที่มารบกวน เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในขณะที่เรานั่งปฏิบัติ อีกอย่างหนึ่งก็คือสีแสงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นขณะที่เรานั่งหลับตา อาจจะเป็น สีส้ม สีเขียว สีม่วง สีอะไรแล้วแต่ พอหลับตาแล้วก็จะมีการปรากฏขึ้นมา ในที่ว่าง ๆ ข้างหน้า ๔ อย่างนี้เกิดแน่นอน เพียงแต่อะไรจะเกิดก่อน ไม่ว่า อะไร อารมณ์ไหนจะเกิดขึ้นมาก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอาการของลมหายใจ เป็น


































































































   365   366   367   368   369