Page 493 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 493

475
มันวาบสว่าง วาบสว่าง ก็คืออาการเกิดดับในความว่างที่มีแสงสว่างวาบ ขึ้นมาแล้วก็หาย วาบแล้วหาย แต่จะเรียกชื่อว่าอะไร ? ก็เขาบอกเขาเป็น อย่างนั้น
เสียงเราก็รู้ว่าเสียง อย่างเช่น เราไปฟังเสียง พอมุ่งไปที่เสียง อาการ เกิดดับของเสียงมีลักษณะแวบขึ้นมาสว่างวาบนิดหนึ่งแล้วก็แวบหาย แวบ หาย... สว่างวาบหาย วาบหาย... ก็คืออาการเกิดดับของเสียงนั่นเอง แต่เมื่อ เสียงหมดไป มารู้ข้างหน้าที่ว่าง ๆ แล้วก็มีอาการวาบขึ้นมาข้างหน้า วาบขึ้นมา อาการเกิดดับที่เป็นแสงสว่างหรือเป็นจุดดา ๆ ใส ๆ ขึ้นมา ก็เรียก “อาการ” นั้นแหละ ถามว่าอาการนั้นคืออะไร ? ก็จะเป็นอาการของรูปอย่างหนึ่ง แต่ เราไม่ต้องไปหา ถึงตรงนี้แล้วเราไม่ต้องไปหาว่ามันเป็นรูปอะไร เพราะไม่มี รูปร่าง แต่บอกถึงลักษณะอาการเกิดดับได้
เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ก็รู้ถึงอาการเกิดดับ เพราะตรงที่เขามี ความสว่างวาบหาย วาบหาย นั่นคือลักษณะอาการเกิดดับของแสงที่เกิดขึ้น จัดเป็นอาการของรูปอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ถ้ามีอาการของรูปแล้วจิตเราอยู่ ตรงไหน ? ทาไมบางครั้งรู้สึกจิตเราสว่างขึ้น ? บอกว่าความสว่างเป็นจิต แต่ เมื่อมีอาการวาบ ๆ กลับเป็นอาการของรูป อันนี้ละเอียดขึ้นนะ
ถ้ายังคิดแล้วจะหายาก เพราะฉะนั้น แค่สังเกตดูดี ๆ เราจะเห็นว่า จะมีผู้ดูอยู่ เมื่อไหร่ที่มีผู้ดู อาการที่วาบข้างหน้าก็เป็นแค่อาการเกิดดับ เป็น อาการของรูปอย่างหนึ่งว่าเป็นสีสันขึ้นมา ผู้ดูตรงนี้เขาจะไม่มีสีสัน ถ้าเข้าไป รู้แล้ว ผู้ดูตัวรู้ตัวนี้ดับยังไง ? ดับด้วยหรือไม่ ? แต่จะรู้สึกได้ว่าเขาดับ ไม่ เห็นแต่รู้สึกได้ บางครั้งถ้าสติเราดีก็จะเห็นได้ด้วยว่าจิตดับแบบนี้ ชัดในความ รู้สึก ชัดอยู่ในใจเราว่าเขาหายไปด้วย ตรงนั้นจุดที่ต้องสังเกต
ตรงนี้เราเห็นลักษณะของจิตที่เกิดขึ้นทีละขณะ แต่ละดวงที่เกิดขึ้น มา ทาหน้าที่รับรู้แล้วก็ดับไป จะได้เห็นรูปนามว่าดับพร้อมกันหรือไม่ หรือ รูปดับไปก่อน นามดับทีหลัง หรือนามดับก่อน แล้วรูปดับทีหลัง อันนี้แล้ว


































































































   491   492   493   494   495