Page 495 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 495
477
ปฏิบัติเพื่อขัดเกลาจิตใจของเรา เพื่อให้สภาพจิตใจเราจะดีขึ้น สะอาด ขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น สงบมากขึ้น ผ่องใสขึ้น กิเลสน้อยลง การที่เราจะรู้ได้ก็ต้อง พิจารณาดูสภาพจิตนั่นเอง ทุกครั้งที่เราเห็นสภาวะที่เกิดขึ้นแล้วดับไปแต่ละ ขณะ ทา ใหส้ ภาพจติ ใจเราเปลยี่ นอยา่ งไร ? ตา่ งจากเดมิ อยา่ งไร ? เพราะฉะนนั้ สภาพจิตจึงเป็นผลจากการกาหนดรู้อาการเกิดดับทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้น อันนี้อย่างหนึ่ง
อีกอย่างหนึ่งก็คือ “อายุของอารมณ์” อายุของอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับใจ ของเรานั่นแหละ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับใจ กุศลอกุศลที่เกิดขึ้นกับใจของเรา ตั้งอยู่นานแค่ไหน ? ตั้งอยู่เท่าเดิม หรือสั้นกว่าเดิม หรือยาวกว่าเดิม ? อันนี้จะได้รู้ว่า ตั้งแต่ปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน ทาให้สภาพจิตใจเราเปลี่ยน ไปอย่างไร ? ยังหนักเหมือนเดิม ? อายุอารมณ์ยังยาวเหมือนเดิม หรือว่า น้อยลง ? อันนี้โดยขณะใหญ่
เวลามีอารมณ์เข้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อารมณ์เหล่า นั้นดับอย่างไร ? อารมณ์ภายนอกที่เข้ามากระทบนั้น พอเข้ามาถึงใจ ใจรับรู้ แล้วรู้สึกอย่างไร ? รู้สึกขุ่นมัว รู้สึกผ่องใส รู้สึกเบิกบาน ? ถ้ารู้สึกขุ่นมัวขึ้น มา เวลาเข้าไปดับ ดับได้เร็วหรือช้ากว่าเดิม ? และเมื่อมีสติเข้าไปกาหนดรู้ เขาดับในลักษณะอย่างไร ? อันนี้อย่างหนึ่ง ลองสังเกตดูนะ
อีกอย่างหนึ่งก็คือ “ความรู้สึกที่ว่างอย่างไม่มีตัวตน” เวลาเรายก จิตขึ้นสู่ความว่าง หรือทาจิตให้ว่างไม่มีตัวตน หรือดับความรู้สึกว่าเป็นเรา หรือเห็นว่าไม่เป็นเรา การที่เห็นว่ารูปนามนี้ไม่มีตัวตน ไม่บอกว่าเป็นเรา สภาพจิตใจรู้สึกอย่างไร ? สภาพจิตใจเป็นอย่างไร ? ที่ “คิด” ว่าไม่ใช่ของ เรา กับที่ “เห็น” ว่าไม่บอกว่าเป็นเรา สภาพจิตใจรู้สึกต่างกันอย่างไร ? อันนี้ สังเกต
และอีกอย่างหนึ่ง หลายอย่างแล้วนะ... ขณะที่เห็นว่ารูปนามอันนี้ไม่ บอกว่าเป็นเรา มีแต่รูปกับนาม มีแต่กายกับใจ ที่กาลังเคลื่อนไหวเป็นไปอยู่นี้