Page 498 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 498
480
ของเราง่ายกว่าอกุศลของคนอื่น การปฏิบัติก็เพื่อขัดเกลาตัวเราเอง ไม่ใช่ ขัดเกลาคนอื่น
เพราะฉะนั้น ที่บอกว่ามีสติกาหนดรู้อาการเกิดดับของรูปนาม ของ ทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้น ทาให้สภาพจิตใจเราเป็นอย่างไร ? ที่อาจารย์บอกว่า ให้สังเกตดูนะว่า จิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นมาเป็นอย่างไร ? ต่างจากเดิมอย่างไร ? จิตดวงนี้ดับไป จิตดวงใหม่เกิดขึ้นมา รู้สึกอย่างไร ? ดีอย่างไร ? บางคน บอกว่า พอดับแล้ว จิตดวงใหม่เกิดขึ้นมา ยิ่งสว่างกว่าเดิม ยิ่งใสกว่าเดิม ยิ่ง สะอาดกว่าเดิม... จิตดวงใหม่สะอาดกว่าเดิมตอนนั้นนี่ทาได้ดีมากเลย แต่ พอกลับไป เจออารมณ์กระทบทางตา ความสะอาดหายหมด! เพราะอะไร ? เพราะว่าพอกระทบปุ๊บ แทนที่จะรู้ว่าจิตที่ไปกระทบมันดับหรือเปล่า... เปล่า เลย! กลับไปรู้ว่า “เรา” เป็นคนกระทบ “เรา” เป็นคนเห็น
จริง ๆ พอกระทบปุ๊บ จิตดวงนี้ไปรู้ปุ๊บ เขาดับปุ๊บ จิตดวงใหม่เกิด ขึ้นมา รู้สึกยังไง ? ต้องสังเกตต่อเนื่อง เห็นจิตดวงใหม่อยู่เนือง ๆ เหมือน เราเกิดใหม่อยู่บ่อย ๆ เราก็จะเป็นคนใหม่ เมื่อเห็นจิตดวงใหม่ รูปนามใหม่ เกิดขึ้น ถามว่า เรายังเป็นคนเดิมอยู่ไหม ? คาว่า “เรา” อยู่ตรงไหน ? เพราะ เกิดใหม่แล้ว คาว่าเป็น “เราคนเดิม” ก็เป็นสัญญา จาได้ว่าเป็นเรา จาได้ว่า เราเป็นอย่างนี้ สิ่งที่ทาเป็นประจา ๆ จนติดเป็นอุปนิสัยนั่นแหละ แสดงถึง ความเป็นเรา แล้วก็จาได้ว่าเป็นเรา
ตรงตัวสัญญาที่จาได้ว่าเป็นเรา แล้วก็ยึดเอาสัญญานั้นว่าเป็นของ เรา พอยึดสัญญานั้นว่าเป็นของเรา มีเราเป็นผู้ตั้งมั่นอยู่ จึงเปลี่ยนแปลงได้ ยาก ทั้ง ๆ ที่รูปนามเขามีการเกิดดับอยู่เนือง ๆ ตลอดเวลา เหมือนกับรูป นามอันนี้ ร่างกายจิตใจอันนี้ที่เป็นอยู่ขณะนี้ กับตอนเด็ก ๆ ก็ไม่เหมือนกัน อีก ถามว่า เป็นรูปเดียวกันไหม ? ก็ไม่แน่ใจ เพราะเปลี่ยนไปอยู่เรื่อย ๆ ถ้าเป็นรูปเดียวกัน ทาไมหน้าไม่เหมือนกัน ? ถ้าเป็นรูปเดียวกัน ทาไมผม สีไม่เหมือนกัน ? ทาไมเป็นรูปเดียวกัน ฟันยังไม่เหลือเท่าเดิม ? ถ้าเป็นรูป