Page 56 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 56
38
ถ้ารู้สึกว่าง่วงจริง ๆ ให้ล้างหน้าก่อน แล้วค่อยมาเดินจงกรม แล้ว วิธีแก้อาการง่วงอีกอย่างหนึ่ง ถ้ารู้สึกว่าตัวเองนั่งแล้วง่วงง่าย เราเดิน... เดิน... พอรู้สึกว่าตื่นตัวเมื่อไหร่ ให้มานั่ง อย่านั่งตอนที่เราเดินจนเมื่อยแล้ว เมื่อไหร่ที่เราเดินจนเท้าเราล้าหมดแล้ว ตัวเราล้าเราก็มานั่ง ก็จะกลายเป็น การพัก แล้วก็หลับต่อ อันนี้อย่างหนึ่ง ถ้าเราเดิน พอจิตเราตื่นแล้วก็มานั่ง ปึ๊บ พิจารณาอาการ มี “อารมณ์หลัก” ให้กับจิตของเรา ตัวสาคัญเลยในการ ปฏิบัติ ในการนั่งสมาธิ ก็คือ ต้องมีอารมณ์หลักให้กับจิตเรา
อารมณ์หลักก็คือ อาการอย่างใดอย่างหนึ่งเช่น ตามลมหายใจเป็น หลัก ตามดูพองยุบเป็นหลัก ดูเวทนาเป็นหลัก ดูความคิดเป็นหลัก ต้องมี อารมณ์หลักให้กับจิต ถ้าไม่มีอารมณ์หลักตรงนี้ จิตเรานิ่ง ๆ ว่าง ๆ อย่าง เดียว โดยที่ไม่มีเจตนาที่จะรู้อาการอะไรเลย ก็จะหลับ! สมาธิเยอะก็จะหลับ อันนี้ก็มี อีกอย่างหนึ่งนะ วิธีแก้อาการง่วง แบบนี้ตอนนั่งแล้วสู้ได้เลย ใครที่ ทาจิตให้ว่างได้ ขยายจิตตัวเองได้ สังเกตดูดี ๆ นะ พอเราเริ่มนั่ง ความง่วง เข้ามาแล้ว รู้สึกเป็นไง ? มันเริ่มทึบ ๆ จากข้างบนลงมา สังเกตไหม เริ่มมี เงา เริ่มทึบ ๆ แล้วก็ต่าลง ๆ เรื่อย ๆ ตรงนั้นเริ่มง่วงแล้ว เมื่อไหร่ที่ทึบ ๆ ทึบ ๆ เบลอ ๆ เข้ามา ให้เอาจิตเข้าไป แล้วก็ขยายมันออกให้กว้าง
ลองดูนะตอนนี้ ลองดูสิ เอาความรู้สึกหรือจิตของเรา เข้าไปที่ บรเิ วณหนา้ ผาก แลว้ ขยายออกไปใหก้ วา้ ง ไมม่ ขี อบเขต ลองดวู า่ รสู้ กึ เปน็ ไง ? รู้สึกสว่างขึ้น รู้สึกโล่งขึ้น หรือว่าเป็นอย่างไร ? สว่างขึ้นนะ โยมรู้สึกเป็นไง ? เบา ๆ ขึ้นนะ มีอย่างหนึ่งนะสิ่งที่ต้องสังเกต เวลาเราขยายเวลาเราง่วง บางทีมันโล่งแค่สมองเรา แต่รอบ ๆ ยังมีเศษอารมณ์ รู้สึกยังทึบ ๆ ตื้อ ๆ อยู่รอบ ๆ ตัว ถ้าแค่นี้ แล้วเราก็ปล่อยกลับมาที่ตัว เดี๋ยวไอ้ที่มืด ๆ ก็จะ ค่อย ๆ กลับเข้ามา ใช่ไหม ?
เพราะฉะนั้น วิธีแก้คือ ขยายออกไปให้กว้างไม่มีขอบเขต จนเรารู้สึก โล่งโปร่งทั้งหมด แล้วรู้สึกตื่นตัวจริง ๆ นั่นคือความง่วงจะหายไปจริง ๆ