Page 90 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 90

72
ดับทุกข์ แต่เมื่อความทุกข์ของจิตเราดับไป สติเรามีกาลัง จิตเราสงบ เราใช้ ผลของความทุกข์ที่ดับนี่มาแก้ปัญหา พอไฟสว่างขึ้น แล้วเราจะทายังไงกับ งู ? การปฏิบัติเราเห็นอาการเกิดดับจนจิตเราหลุดพ้น หรือถอยออกมา จากที่มืด หรือเหมือนเปิดไฟให้สว่างแล้วเห็นงูนี่ ขณะที่ไฟสว่าง เราพิจารณา ว่าจะไล่งูไปทางไหน ? นั่นแหละคือประโยชน์ที่เกิดขึ้น
และการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ “เด็ดขาด” ในการเจริญวิปัสสนา คือ เป็นไปเพื่อความดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง ไม่เวียนว่ายตายเกิด ตรงนั้นเป็นการแก้ ปญั หาตลอดไป ไมใ่ ชแ่ คแ่ กป้ ญั หาในโลกนี้ ขณะนี้ เทา่ นนั้ เพราะการพจิ ารณา รู้อาการเกิดดับของรูปนาม แล้วเราปฏิบัติจนถึงเป้าหมาย มันก็เหมือนแก้ ปัญหาหมดทั้งกระบวนการ เมื่อไหร่ที่เราไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด ก็ไม่ต้อง กลับมาเจอปัญหาแบบนี้อีก
โยคี (๔) : ขออนุญาตกราบเรียนพระอาจารย์ครับ คือผมมีข้อสงสัย เพิ่งเกิดเมื่อตอนช่วงบ่ายนี้เอง เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ ผมฝึก สติอยู่ ดูลมอยู่ครับ ยุบหนอ พองหนอ เข้าออก เข้าออก... ก่อนหน้านี้ก็ไม่ เคยนิ่ง จะวอกแวกตลอด มาวันนี้มันรู้สึกแน่น ไม่หลุดเลย
พระอาจารย์ : แน่น หมายถึงว่าจิตเกาะติดกับลมหายใจตลอดเวลา ?
โยคี (๔) : ครับ อยู่ตรงนี้ตลอดเลยครับ เข้าออก พองยุบ พองยุบ... ตลอด ไม่วอกแวกไปไหนเลย ผมก็เกิดความรู้สึกว่า เอ๊ะ! มันก็ซ้า ๆ อยู่ อย่างนี้ แล้วเราจะพัฒนาต่อยังไง ? หรือเราจะได้อะไร ? ผมก็เลยมาดูเวทนา พอมาดูเวทนา เวทนาก็ไม่มี ร่างกายไม่ปวดไม่เมื่อย ทั้ง ๆ ที่นั่งนานแล้วนะ ครับ.. ผมขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า ควรจะทาอย่างไรต่อไปครับ ?
พระอาจารย์ : จริง ๆ แล้ว ดีแล้วนะ สภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อจิตเรามา ที่อยู่อารมณ์เดียว อารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง หมายถึงว่าขณะนั้นสมาธิเราดี สติ ก็ดี จึงรู้แค่อารมณ์เดียว ไม่มีอารมณ์อื่นเข้ามาแทรก หรือไม่มีอารมณ์จรเข้า


































































































   88   89   90   91   92