Page 24 - ต้นจิตและอริยาบทย่อย
P. 24

18
เน้นแค่ว่ามีสติรู้อยู่กับปัจจุบันอย่างเดียว แต่มีสติรู้อยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน พรอ้ มกบั มปี ญั ญาพจิ ารณาถงึ อาการพระไตรลกั ษณข์ องอารมณป์ จั จบุ นั ของอิริยาบถที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ๆ พร้อมกับสังเกตว่า ขณะที่กาหนดรู้ ตรงนี้ ผลที่ตามมา คือสภาพจิตใจเป็นอย่างไร ส่งผลต่อจิตเป็นอย่างไร ไม่ใช่แค่ฉันรู้ปัจจุบัน รู้ว่าทาได้แป๊บเดียวเดี๋ยวก็หลุด ไม่ใช่! การกาหนดรู้ แบบนี้ ถึงแม้จะเผลอไป หลุดไป มีอารมณ์จรแทรก เผลอไปคิดนิดหนึ่ง ก็มีเจตนาที่จะกาหนดอารมณ์ปัจจุบันใหม่ให้ชัดขึ้น
เวลาอารมณ์จรแทรกเข้ามา แล้วจิตเราหลุดจากอารมณ์ปัจจุบัน ไปนิดหนึ่ง ถ้าหลุดออกไปแว็บเดียว อกุศลไม่เกิด ไม่ต้องกังวล ไม่ต้อง หงุดหงิดกับที่เขาหลุดหรอก ให้เริ่มต้นใหม่ทันที พอใจที่จะยกจิตใหม่ กาหนดใหม่อย่างเดียว ถึงจะหลุดบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าเรายัง อยใู่ นขนั้ ตอนของการปฏบิ ตั ิ เปน็ ผทู้ ย่ี งั ตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยู่ ใครไมห่ ลดุ เลย หา ยากนะ! ก็คงไม่มีแหละ เพราะไม่เคยเห็น ก็จะมีหลุดเป็นระยะ ๆ ปฏิบัติ ไปสักพัก บางทีโยคีเกิดสติไวขึ้น จิตตั้งมั่นขึ้น สติแก่กล้าขึ้น ก็รู้สึกว่าวันนี้ ทงั้ วนั ไมห่ ลดุ เลย มสี ตริ ตู้ น้ จติ ตลอดเวลา รอู้ าการอริ ยิ าบถยอ่ ยตลอดเวลา แทบจะไม่ต้องพยายามกาหนดเลย เขาทางานของเขาเอง... ความรู้สึก ตรงนนั้ จะเกดิ ขนึ้ ถามวา่ มไี หม ? มี เปน็ ลกั ษณะของสภาวญาณอยา่ งหนง่ึ เราอาจเคยได้ยินว่า พระอริยเจ้าสมัยก่อน แค่โกนผมก็บรรลุธรรม แค่ใบมีดโกนจรดปลายเส้นผม รอบที่หนึ่งบรรลุเป็นโสดาบัน รอบที่สอง เป็นสกทาคามี รอบที่สามเป็นอนาคามี รอบที่สี่เป็นอรหันต์ ผมยังไม่หมด ศีรษะเลย ตรงนี้คือการกาหนดรู้อาการเกิดดับในอิริยาบถย่อย
เพราะฉะนนั้ การกาหนดรอู้ าการในอริ ยิ าบถยอ่ ย ธรรมะกป็ รากฏได้ ถ้าเรารู้ว่าทุก ๆ อิริยาบถเป็นสิ่งสาคัญในการเจริญสติของเรา เพราะมีผล































































































   22   23   24   25   26