Page 47 - ต้นจิตและอริยาบทย่อย
P. 47

จะเป็นอย่างไร... เฉยแบบไหนไม่รู้ เฉยด้วยกิเลส เฉยเพราะมีตัวตน หรือเฉยด้วยปัญญา ?
จริง ๆ แล้วความเฉยก็มีหลายระดับ ส่วนใหญ่เราแยกไม่ออก ระหว่าง “ความเฉย” กับ “การปฏิเสธอารมณ์” เฉยเพราะปฏิเสธอารมณ์ ไม่อยาก ไม่สนใจ จะกลายเป็นการปฏิเสธอารมณ์ ถ้าเป็นเฉยที่ประกอบ ด ว้ ย ป ญั ญ า จ ะ ไ ม ป่ ฏ เิ ส ธ อ า ร ม ณ ์ แ ต ก่ ไ็ ม ค่ ล กุ ค ล ใี น อ า ร ม ณ ์ จ ติ จ ะ ม คี ว า ม อิสระ สบาย ไม่แห้งแล้ง จิตที่อิสระจะเป็นธรรมชาติ สงบ แล้วดีด้วย ธรรมะจึงมีคุณค่า เพราะทาให้เราไม่ทุกข์กับอารมณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อไม่มี ความทุกข์ มีแต่ความสุข ก็พร้อมที่จะให้เมตตา ถ้าคนเรามีเมตตา โลก เราจะร่มเย็น ทุกคนมีความปรารถนาดีต่อกัน มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน... เหมือนเรามีความรู้สึกดี ๆ กับต้นไม้ เราเห็นต้นไม้เหี่ยวไม่ได้หรอก เดยี๋ วหาน้าไปให้ แลว้ ตน้ ไมก้ ก็ ลบั มาสดชนื่ พอเหน็ ตน้ ไมเ้ ขยี ว เรากไ็ ดร้ บั ความสดชื่น ความเบิกบาน โดยที่ต้นไม้เขาก็ยืนอยู่ตรงนั้น แม้แต่ลมพัดมา ถ้าต้นไม้เขียวต้นไม้สดชื่น ออกซิเจนที่พัดเข้ามาหาตัวเราก็ทาให้ชีวิตเรา มคี วามสดชนื่ แตถ่ า้ ตน้ ไมท้ งั้ หมดเปน็ ตน้ ไมท้ แี่ หง้ แลง้ หรอื เปน็ ตน้ ไมต้ าย ลมที่พัดมาก็ต่างไปจากเดิม... ธรรมชาติให้สิ่งดี ๆ แก่เรา แล้วเราให้อะไร กับธรรมชาติ ? นี่คือปัจจัยที่อาศัยซึ่งกันและกัน
ถ้าเรามีเมตตาให้กัน สังคมจะเป็นอย่างไร ? มองไปแล้วเห็น ทุกคนมีความปรารถนาดีต่อกัน เราก็มีความสุข ถ้าเรามีเมตตา เราก็พร้อม ที่จะเข้าใจสิ่งที่อยู่รอบข้าง เริ่มจากเราเข้าใจตัวเองก่อน ที่ดูต้นจิตแล้วเห็นถึง ความอยาก ความชอบ ความไม่ชอบ ความเกลียด ความกลัวของตนเอง แล้วเราก็ละตรงนั้นไปเรื่อย ๆ ๆ แล้วถ้าจิตเรามีความสุขมากขึ้น เมตตา จะเกดิ ขนึ้ เองโดยปรยิ าย โดยไมต่ อ้ งบอกวา่ ตอ้ งมเี มตตานะ นคี่ อื ธรรมชาติ
41































































































   45   46   47   48   49