Page 52 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การปรับอินทรีย์
P. 52
304
ดับไป เกิดขึ้นมาแล้วดับไป เหมือนวิถีจิตต่าง ๆ นั่นแหละ เขาเกิดดับเป็นปกติ แต่ทาไมเราจึงรู้สึกว่า กิเลส มันตัดยาก ทาไมถึงตัดยาก ลดยาก วางยาก หรือไม่เห็นกิเลสดับไปสักทีหนึ่ง จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เขาไม่เกิด ดับหรอก เพียงแต่ปัญญาของเรานั่นแหละ
ความเข้าใจ...บางครั้งเขาดับไปแล้ว ก็ยังเข้าใจว่าคงไปหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง พอเวลากิเลสไม่ เกิดขึ้นจิตดสูบายเบามคีวามผอ่งใสแต่กย็ังร้สูึกวา่กิเลสนา่ทยี่งัอยู่มนัตอ้งไปหลบอยทู่ไี่หนสกัแห่งหนงึ่ เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่เกิด อย่างที่บอกไปแล้วว่า ถ้ายังไม่เกิด จะเรียกว่ามีได้ไหม นั่นคือวิถีจิตที่เกิดขึ้น แต่ละขณะ ๆ เพราะฉะนั้นการที่มุ่งไปรู้อาการ มุ่งไปรู้ที่อาการเกิดดับ ต้องสังเกต ตัวจิตตัวมุ่งเองไปด้วย ว่าดับไปด้วยหรือเปล่า
และการที่การเห็นจิตไปดับไปกับอาการนี่นะ จริง ๆ แล้ว โยคีจะต้องสังเกตทันทีว่า เวลามุ่งเข้าไป ตวั มงุ่ ดบั จติ ดวงนที้ มี่ งุ่ ไปรอู้ ารมณค์ รงั้ หนงึ่ แลว้ ดบั ไป พอมอี ารมณใ์ หมข่ นึ้ มา จติ กบั อารมณน์ นี่ ะ อนั ไหน เกิดก่อนกัน อย่างเช่นเสียงที่ดังขึ้นมา กับที่ไปรู้เสียง เสียงเกิดครั้งหนึ่งดับไป พอเห็นว่าจิตดับไปกับเสียง ในแต่ละขณะ แล้วมุ่งต่อไปขณะต่อไปนี่นะ เสียงเกิดก่อนหรือจิตเกิดก่อน หรือว่าเกิดพร้อมกันทีเดียว อันนี้ก็ต้องสังเกตเหมือนกัน
ทาไมถึงสังเกตแบบนี้ คาว่าอารมณ์ใหม่แต่ละขณะ จิตที่เกิดขึ้นนี่นะ เห็นวิถีรูปวิถีนาม วิถีจิตที่ เกิดขึ้นแต่ละขณะ วิถีรูปที่ปรากฏขึ้นแต่ละขณะ อันนี้ยังเป็นขณะใหญ่ ที่เราสามารถกาหนดรู้ได้ ตามกาลัง ของสตขิ องเรา ในขณะทรี่ บั รตู้ ามกา ลงั ของสตแิ บบนี้ ถา้ เหน็ ...แมแ้ ตเ่ หน็ วา่ เปน็ จติ ดวงใหม่ เปน็ รปู ใหมเ่ กดิ ขึ้นมา เป็นจิตดวงใหม่ขึ้นมา ก็จะเป็นตัวคาตอบว่า แล้วอันไหนที่บอกว่าเป็นของเรา อันไหนที่บอกว่าเป็น เรา หรือเป็นของเที่ยง มีเราไหม เป็นแค่จิตดวงใหม่เกิดขึ้นมา แล้วก็รูปใหม่ดวงใหม่ ขึ้นมาทาหน้าที่รับรู้ เป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้น จิตดวงนี้ที่เกิดขึ้นมา การรับรู้อาการเกิดดับตรงนี้ พอจิตดวงใหม่ขึ้นมา แล้วเป็นจิต ประเภทไหน จิตประเภทไหน เป็นจิตที่เป็นกุศล เป็นจิตที่เป็นฝ่ายกุศล เป็นมหากุศลที่เกิดจากปัญญา เกิด จากปัญญา ตรงนี้...ปัญญาที่เห็นถึงการดับ การเกิดแล้วดับไป แล้วก็เกิดใหม่ คือทาไมถึงเรียกว่าปัญญา ปัญญาที่เห็นอาการพระไตรลักษณ์นี่แหละ ถึงเรียกว่าปัญญา ภาวนามยปัญญา การเห็นถึงการเกิดดับ ๆ
แลว้ ลองดวู า่ จรงิ ๆ แลว้ โยคสี ามารถสงั เกตไดท้ นั ที ทบี่ อกวา่ เมอื่ ไหรท่ จี่ ติ ตนื่ ตวั จติ ผอ่ งใส อาการ เกิดดับก็ชัด เมื่อไหร่ที่อาการเกิดดับชัด ก็จะทาให้จิตก็จะผ่องใสมากขึ้น ตรงนี้กลายเป็นเหตุปัจจัยของ ตัวเอง ถามว่าเป็นไปเพราะความอยากของเรา หรือเป็นเพราะปัจจัย เป็นสภาวธรรมที่เป็นปกติเท่านั้นเอง เพราะสิ่งที่เราทาคืออะไร สิ่งที่เราทาขึ้นมาก็คือ ทาให้สติเรามีกาลังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทาให้สมาธิมีความ ตั้งมั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถามว่า สติจะมากขึ้นได้อย่างไร สติที่มากขึ้น ก็เหมือนที่เราพอใจ ที่จะกาหนดรู้อารมณ์ปัจจุบันให้ บ่อยนี่แหละ รับรู้อารมณ์ปัจจุบันอยู่เนือง ๆ อย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น รับรู้อาการเกิดดับของ