Page 17 - มิติธรรม
P. 17
11
เกิดใหมอีกขณะหนึ่ง เพื่อที่จะตองตายในขณะตอไป ความตายที่มาเยือน ในขณะเล็ก ๆ เปนความตายที่ไมมีอะไรเหลือวางเปลาจริง ๆ วางจาก ความรูสึก วางจากการเห็นและการรับรู ความตายชนิดนี้เรียกวาขณิก นิพพานหรือนิพพานขณะเล็ก เมื่อมีโอกาสเขาถึงนิพพานขณะเล็ก ความ คิดเห็นความรูสึกใหมยอมเกิดขึ้น ขณิกนิพพานมีรสชาติเปนอยางนี้ แลว มหานิพพานมีรสชาติเปนอยางไร ?
วิธีท่ี ๓
ใหเอาความรูสึกจับความรูสึก ความรูสึกแรกทําหนาที่เห็นและ เกาะติดความรูสึกหลัง ความรูสึกแรกคือสติความรูสึกหลังคือสัมปชัญญะ ใหเอาสติซอนเขาไปในสัมปชัญญะ จะเห็นสติ-สัมปชัญญะมีอาการเกิด ดับพรอมกัน เกิดพรอมกัน ดับพรอมกัน เปนขณะ ๆ ระหวางเกิดกับ ดับ ดับกับเกิดเห็นชัดวา ไมมีตัวตน มีเพียงสติทําหนาที่รูถึงความตื่นตัว ของสัมปชัญญะเทานั้น เปนอาการที่เกิดขึ้นชั่วพริบตา แลวดับไปอยาง รวดเร็ว บังคับไมได เห็นชัดวาระหวางดับกับเกิดไมมีอะไรเหลือ ไมมีส่ิง ที่ตองรูแมใจรูก็ไมมี ไมใชกลางวัน ไมใชกลางคืน ไมใชพลบค่ํา ไมใช ย่ํารุง วางเปลาจากทุกสิ่งทุกอยาง วางเปลาจากตัวตน วางเปลาจากส่ิง มีชีวิต ถึงแมจะไดสัมผัสเพียงชั่วขณะเล็ก ๆ ก็บอกไดวาเปนแดนที่สงบ สันติจากทุกสิ่งทุกอยาง ทุกครั้งท่ีรูสึกขึ้นมาใหม ใหความรูสึกเหมือน เกิดใหม เปนการเกิดใหม เพียงเพ่ือใหรับรูถึงความเปล่ียนแปลง ไมมี อะไรแนนอนบังคับไมได เกิดข้ึนชั่วพริบตาแลววูบดับไปในที่สุด แลวรูสึก ขึ้นใหม เพื่อที่จะไดรับรูถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปนามขณะเล็ก หน่ึงขณะของชีวิตที่ต้ังอยู กับหน่ึงขณะของชีวิตท่ีดับไป และอีกหน่ึง ขณะของชีวิตที่เกิดใหม เปนหนึ่งขณะของชีวิตที่เกิดมาเพื่อที่จะสลาย จากไปในที่สุด เปนอยูอยางนี้ไมมีหยุดหยอน รูสึกขึ้นมาเหมือนเกิดใหม