Page 19 - มิติธรรม

13
มรรค ผล นิพพาน ก็ยิ่งหางไกล ทั้งนี้เกิดจากกําลังสติสัมปชัญญะ ไมคงที่ขาดความตอเนื่องของความใส นิพพานจะปรากฏใหเห็นได ดวยตาปญญา ตองอาศัยความใสของสติสัมปชัญญะ เมื่อขาดความใส เปรียบเสมือนขาดแสงสวางสองทาง
ขณิกนิพพานตางจากมหานิพพานอยางไร ? คําถามนี้คงตองอาศัย คําตอบจากนักปฏิบัติทุกทานที่ไดพิสูจนแลว
๓. อนัตตาทํางานไดจริงหรือ ?
ตอนท่ี ๑
จับความรูสึกไดแลวจะเห็นความหนาความบางซอนกันอยู เมื่อกลับมาดูที่ตัวจะเห็นวารูปตัวไมมีความรูสึก คลายหุนไมรับรู มีความใสมองผานความบางทะลุไปถึงตัว เมื่อสังเกตตอไปอีกจะ เห็นวาตัวสวนตัวความรูสึกสวนความรูสึกไมเกี่ยวของกัน ไมวาจะ มองดูอะไรก็ตาม จะเห็นความบางซอนอยูบนสิ่งนั้นเสมอและเห็น ตอไปอีกวา การรับรูอารมณตาง ๆ จะตองอาศัยความรูสึก ขาดความ รูสึกเสียอยางการรับรูก็เกิดขึ้นไมได ความรูสึกกับตัวแยกสวนกัน ก็จริงอยูแตตองอาศัยกัน ความรูสึกเปนเพียงธรรมชาติมีหนาที่รับรู นึกคิด ปรุงแตง เมื่อเห็นอยางนี้แลวใหขยายความรูสึกใหกวางออก จะเห็นความเปนใหญในการสั่งงานของความรูสึก
ไมวาจะทําการงานอะไรก็ตาม ตองผานการกรองของความรูสึก ท้ังหมด กายไมสามารถทําอะไรโดยพลการได ตองผานการเห็นชอบ ของความรูสึก จึงจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไดในทิศทางที่ความรูสึก