Page 25 - มิติธรรม
P. 25

19
ไมวาจะใชธรรมขอใดขอหนึ่ง ผลที่ออกมาจะตองเห็นชองวาง ระหวางอารมณ (คลายอุปาทาน) ความทุกขจะสลายไปทันที
ทุกขเพราะดับความทุกขไมได
ใหเอาความรูสึกซอนเขาไปในความทุกข เพียงเทานี้ความทุกขก็ จะหายไป
ทุกขเพราะขาดความสุข
ใหระลึกถึงความดีที่เคยกระทํามาแลว แมความดีที่ระลึกได จะมีเพียงเล็กนอยก็ตาม ใหเอาความรูสึกซอนเขาไปในความดีนั้น บรรยากาศของความดีจะคอย ๆ ปรากฏขึ้นมา ใหเอาความรูสึกซอนเขา ไปในบรรยากาศที่ปรากฏขึ้นมานั้น บรรยากาศความดีจะปรากฏชัดขึ้น ใหเอาความรูสึกซอนเขาไปในบรรยากาศความดีที่ชัดขึ้น บรรยากาศ ความดีจะเปลี่ยนเปนบรรยากาศความสุข ใหเอาความรูสึกซอนเขาไปใน บรรยากาศความสุข บรรยากาศความสุขจะเปลี่ยนเปนพลัง ใหนิ่งอยูใน พลังความสุขพรอมกับขยายพลังความสุขนั้นมาที่รูป (ตัว) จะรูสึกถึง ความสุขท่ีเกิดข้ึนทั้งกายและใจ เปนความสุขที่ไมมีตัวตน เม่ือเจริญ บอย ๆ พลังความสุขจะอยูตัว
วิธีดูความดี
ใหใชวิธีเปรียบเทียบอดีตกับปจจุบัน เปนตนวาเดือนนี้กับ เดือนกอน เมื่อจิตมีกําลังใหเปรียบเทียบชั่วโมงตอชั่วโมง ขณะตอขณะ จะเกิดความชัดเจนในความดีที่ไดกระทํามาแลว และความดีที่ยัง ไมไดกระทํา เมื่อทําไดอยางน้ีชีวิตจะไมไรสาระ จิตมั่นคง สงบ ไม หวั่นไหว


































































































   23   24   25   26   27