Page 55 - มิติธรรม
P. 55

49
๔๑. ตายแลวไปเกิดในภพภูมิที่ดีหรือไม สังเกตจากความรูสึก กอนตาย
๔๒. จิตรูสึกโปรง เบา สบาย ยอมไปเกิดในที่ดีที่สูง
๔๓. จิตหนัก ยอมไปเกิดในที่ต่ํา
๔๔. จิตยิ่งมืดยิ่งหนักเทาไร ก็จะยิ่งตกต่ําเทานั้น
๔๕. คนที่ทํากรรมหนักไดนั้น เกิดจากจิตขณะนั้น มืด บอด
ขาดสามัญสติ
๔๖. ขณะปฏิบัติมีอาการเครงตึง เกิดจากกความรูสึกถูกล็อกเอา
ไวประกอบดวยตัวตน
๔๗. วิธีแก ใหความรูสึกอยูหนารูปอาการถูกล็อกจะหายไป ๔๘. อารมณจะชัดเจนหรือไมก็ตาม สติจะตองชัดเจนเสมอ
๔๙. อารมณไมชัดเจน สติจะตองรูชัดถึงความไมชัดเจนของอารมณนั้น
๕๐. โลกุตตรสติมีกําลัง สภาวปรมัตถจะชัดเจน สติยิ่งมีกําลัง มากยิ่งชัดเจน
๕๑. สภาวปรมัตถชัดเจน ยังแสดงถึงกําลังของปญญาดวย
๕๒. ขณะเลาสภาวะ เมื่อถามแลวจะตองตอบทันที ยิ่งตอบชา
ความชัดเจนของสภาวะยิ่งนอย ความบกพรองที่มีอยูจะยิ่งมาก
๕๓. เห็นอาการเกิดดับของรูปนามในแตละขณะ จะตองรูถึง
สภาพจิตในขณะนั้นดวย
๕๔. ขันธ ๕ อยูที่ไหน สภาพจิตอยูที่นั่น
๕๕. การเลาสภาวะไมควรเลาวน เพราะการเลาวนบงบอกถึงลักษณะ
ของอารมณ ที่ยังเหลือเศษ
๕๖. อารมณที่ยังเหลือเศษอยู สภาวะจะไมชัดเจน สังเกตไดจากวิถีรูป
๕๗. สภาวะไมชัดเจน จะเปนอุปสรรคตอการปฏิบัติขั้นตอไป


































































































   53   54   55   56   57