Page 53 - มิติธรรม
P. 53
๘. ขณะไดยินเสียง ความสุขจะเปนผูไดยินเสียงนั้น
๙. ขณะไดกลิ่น ความสุขจะเปนผูรูกลิ่น
๑๐. ขณะลิ้มรส ความสุขจะเปนผูรับรูรส
๑๑. ขณะสัมผัส หยิบ จับ เคลื่อนไหว เดิน ความสุขจะเปนผูรับรู
อาการเหลานั้น
๑๒. ขณะยืน จะรูสึกวายืนอยูบนความสุข
๑๓. ขณะนั่ง จะรูสึกวานั่งอยูบนความสุข
๑๔. ขณะคิด ความสุขจะเปนตัวหอหุมความคิด
๑๕. ขณะพูด ความสุขจะเปนตัวหอหุมคําพูดออกมา ๑๕. ขณะเคี้ยวอาหาร จะเคี้ยวถูกความสุข
๑๗. ขณะกลืน จะกลืนเอาความสุขเขาไป
๑๘. เมื่อทําไดอยางนี้ ความสุขจะตั้งอยูไดนาน
๑๙. ผูมีปญญามาก จะดับอารมณไดเร็ว
๒๐. ผูที่มีสติ จะมีความตื่นตัวตลอดเวลา
๒๑. มักมีคําถามวา ทําไมยิ่งปฏิบัติยิ่งทุกข ? ไมปฏิบัติยังจะดีกวา
๒๒. ที่เปนเชนนี้เพราะ เมื่อเจริญโลกุตตรสติแลว สามัญสติมีกําลัง มากขึ้น จึงเห็นทุกขชัดเจนขึ้น
๒๓. ถาหากสามัญสติมีกําลังมากขึ้น ทําไมจึงเกิดความรูสึกสับสน ? วนเวียนอยูกับความทุกขนั้น ?
๒๔. เหตุที่เปนเชนนี้เพราะขาดการพิจารณา ไมเห็นชองวางระหวาง อารมณ
๒๕. วธิ แี ก ใหเ อาความรสู กึ ไวห นา รปู จะเกดิ ความรสู กึ วา ง เบา สบาย
๒๖. ใหเอาความรูสึกวางนี้ ยอนกลับไปดูปญหาตาง ๆ ความสับสน ความทุกขจะคอย ๆ จางหายไป
47