Page 51 - มิติธรรม
P. 51

45
๒๖. เห็นความไมมีอะไรเกิด เห็นความไมมีอะไรดับ เปนอาการเห็น ความไมมีแกนสารอยางชัดเจน
๒๗. รูวิธีดับทุกขแตไมยอมดับหรือไมพยายามดับ แสดงวาพอใจที่ จะทุกข
๒๘. ในความเปนมนุษยยังแบงจิตออกได ๕ ประเภท
๒๙. กายมนุษย จิตพรหม จะมีเมตตา กรุณา ออนโยนและเสียสละ ๓๐. กายมนุษย จิตเทวดา มีแตความสุข จิตละเอียดออน เบาสบาย ๓๑. กายมนุษย จิตมนุษย สุข ทุกขคละเคลากันไป
๓๒. กายมนุษย จิตนรก มีแตทุกข ทุรนทุราย หวาดระแวง กลัวภัย
นึกถึงความเปนกุศลไมออก
๓๓. กายมนุษย จิตพนโลก จิตอยูเหนือกุศลและอกุศลทั้งปวง
ไมยึดติดสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น จิตวางเปลา
๓๔. กายมนุษยจิตจะเปนเชนไร ทั้งนี้ขึ้นอยูกับความพอใจและกําลัง
สติปญญาของแตละบุคคล
๓๕. นักปฏิบัติที่ดีไมควรมุงที่จะเลาเพียงอยางเดียว ควรมุงที่จะฟง
ดวยจึงจะเกิดประโยชน
๓๖. จิตยิ่งนิ่งอาการเกิดดับยิ่งชัดเจน
๓๗. ศรัทธาที่เกิดจากการนึกคิด กําลังจะตางกับศรัทธาที่เกิดจากใจ ๓๘. ศรัทธาที่เกิดจากการนึกคิด กําลังจะนอยไมมั่นคง
๓๙. ศรัทธาที่เกิดจากใจ จะตั้งมั่นไมหวั่นไหว
๔๐. ผูสิ้นอาสวกิเลส อาการฟูของจิตจะไมปรากฏ
๔๑. ขณะกาวเทาแลวมีอาการหลุดออก ๆ เปนอาการเกิดดับของรูป
๔๒. อาการระยิบระยับเปนอาการของความเปนกลุมกอนแตก จัดเปนปญญา


































































































   49   50   51   52   53