Page 67 - มิติธรรม
P. 67
61
๑๐. ขณะมีเมตตาจิต ความรูสึกพรอมที่จะเขาใจ และใหความ ชวยเหลือจะเกิดขึ้น
๑๑. เมื่อมีบรรยากาศของความรูสึก ก็จะมีบรรยากาศของความเขาใจ ๑๒. เมื่อมีความเขาใจแลว อยากจะจําอารมณนั้น ตองกําหนดจํา ๑๓. ความจําที่เกิดขึ้น จะเปนความจําที่ เบา สบาย ไมมีน้ําหนัก ๑๔. คอยจองจับอารมณ อาการปรุงแตงจะเกิดขึ้น
๑๕. ความรูสึกอยูหนารูปสังขาร สติสัมปชัญญะจะเปนผูรับรูอารมณ ๑๖. ความวางที่อยูหนารูปสังขาร ไมตองล็อก
๑๗. วิถีที่เกิดขึ้นในขณะแรก ที่ไมประกอบดวยเจตนา จัดเปนวิบาก ๑๘. วิถีที่ประกอบดวยเจตนา จัดเปนกรรมทั้งหมด
๑๙. วิถีของผูสิ้นอาสวกิเลส จัดเปนวิถีกิริยา เพราะไมประกอบ
ดวยกิเลสและไมใหผลในภพหนา
๒๐. ถึงแมจะไมใหผลในภพหนาก็ตาม แตในภพนี้ยังใหผลอยู
เพราะมีรูปนามขันธ ๕
๒๑. รูปนาม มีอาการเกิดดับตลอดเวลา จึงเรียกวา อนัตตา
๒๒. รูปนาม มีอาการเกิดดับตลอดเวลา จึงเรียกวา อนิจจัง
๒๓. รูปนาม มีอาการเกิดดับตลอดเวลา จึงเรียกวา ทุกขัง
๒๔. เพราะไมสามารถหยุดยั้งอาการเกิดดับของรูปนามได จึงเรียก
วา อนัตตา
๒๕. อาการเกิดดับตลอดเวลา เรียกวา พระไตรลักษณ
๒๖. อารมณที่ไมไดคาดคิดมากอนเกิดขึ้น จัดเปนอารมณวิบาก
๒๗. ลักษณะของเสียงที่เปนมาแตกําเนิดเกิดจากวิบาก
๒๘. ลักษณะของเสียงหมายถึง เสียงใหญ เสียงเล็ก เสียงทุมฯ ซึ่งไมเกี่ยวกับกิเลส