Page 105 - มรรควิถี
P. 105
แตอาการเกิด-ดับของความรูสึก เกิดตอเนื่องกัน ขณะเห็นเราจับที่ความ รูสึกที่ทําหนาที่เห็น ขณะไดยินจับที่ความรูสึกที่ทําหนาที่ไดยิน ขณะเดิน จับที่ความรูสึกที่รูอาการเดิน ตรงนี้ตองรูนะวาจับที่ความรูสึก ที่ทําหนาที่ รับรูอารมณอะไร ถาจับแตความรูสึกอยางเดียวโดยไมอาศัยอะไรเลย เดี๋ยวก็เลื่อนลอยสภาวะจะไมชัดเจน สติจะไมชัดเจน
ความรูสึกรับรูความสงบตองรูชัดวา เราจับที่ความรูสึกที่ทําหนาที่รับ รูความสงบ จับที่ความรูสึกที่ทําหนาที่รับรูความเบา จับที่ความรูสึกที่ ทําหนาที่รับรูความใส อันนี้คือหลักสําคัญเลย นักปฏิบัติจะตองทําความ เขาใจ เวลากําหนดสภาวะอยางใดอยางหนึ่ง จะตองรูวากําลังกําหนด อะไรอยู พอกําหนดไปสักพักกําหนดอะไรไมได จะตองรูวากอนท่ีจะกําหนด อะไรไมได เรากําหนดอะไรอยู กําหนดลมหายใจ กําหนดเสียง กําหนด เวทนา หรือวากําหนดความคิด ตรงนี้ตองรูนะ รูวาเรากําหนดอาการหรือ อารมณอะไร บางครั้งเรารูสึกกําหนดอะไรไมได เกิดจากอารมณนั้นหาย ไปมีความกังวลเขา ที่จริงความกังวลนั่นแหละคืออารมณที่ตองกําหนด ไมใชไปหาอาการหรืออารมณเกา เพราะความคิดหรือความกังวล เปน อารมณปจจุบันที่สุดขณะนั้น นี่คือสิ่งที่ตองกําหนดรูตองรู ตองกําหนด ใหทันความคิดที่เกิดขึ้น คิดใหมเราก็กําหนดอีก ๆ กําหนดทันเมื่อไร สติ มีกําลังมากขึ้น สภาวะตาง ๆ ก็จะปรากฏขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นอยากังวล วาเราจะกําหนดอะไรดี ใหรูวาขณะนี้สภาวะไหนชัดที่สุด เปนรูป เปนเสียง เปนกลิ่น เปนรส เปนสัมผัส เปนเวทนา เปนความคิด หรือเปนอาการ เกิด-ดับของลมหายใจ ในบางครั้งเราปฏิบัติกําหนดอาการของลมหายใจ แลวมีอาการหายไป แลวจะมีอาการท่ีรูป(ที่ตัว) จะมีอาการใดอาการหนึ่งเกิด ขึ้นมา คลาย ๆ ชีพจรหรืออาการเตนของหัวใจ นั่นก็คือสภาวะที่เกิดขึ้น ตองกําหนดอาการนั้นตอ ไมตองรอและไมตองหาอารมณอื่น
ขณะเจริญพลังตองรูชัดวาเจริญพลังตัวไหน ถาเจริญพลังความ
91