Page 107 - มรรควิถี
P. 107
เดียวกัน ตองรูชัดวาขณะนี้เรากําหนดหรือเจริญพลังตัวไหน สิ่งที่ตอง สังเกตก็คือบรรยากาศของความรูสึก ทั้งรอบตัว ทั้งในตัวรูปมีลักษณะ อยางไร อาการเกิด-ดับหรืออารมณตาง ๆ ที่เกิดขึ้น มีลักษณะอยางไร สิ่งเหลานี้ตองสังเกต เมื่อกําหนดอยางนี้การเจริญสติ การปฏิบัติของ เราจะตอเนื่องไมมีเวลาหยุด ไมมีชองวางใหเราหยุดการปฏิบัติ จนถึง ขนาดรูสึกวาเวลาจะใหหยุดปฏิบัติ หรือหยุดเจริญสติจะตองบังคับ และรูสึกเหนื่อยกับการบังคับนั้น ปฏิบัติไปจนกระทั่งรูสึกวาเวลาไม ปฏิบัติจะตองทําอยางไรเปนเรื่องอัศจรรยนะไมใชธรรมดา
เมื่อเราปฏิบัติแลวเรารูสึกวา หาเวลาปฏิบัติไมได ปฏิบัติแลวก็ลืม ปฏิบัติแลวก็ไมตอเนื่อง ถายังเปนอยางนั้นอยูตองเพิ่มความเพียรนะ ตอง เพิ่มความเพียร นักปฏิบัติบางคนหรืออาจจะหลายคน ปฏิบัติไมวาจะเปน ขณะยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม ทํา กิน พูด คิด เหมือนกับวาทุก ๆ อิริยาบถ ไมพนสายตาของสติ ทุก ๆ อิริยาบถทุก ๆ อาการที่เกิดขึ้น อยูในสายตา ของสติหรือความรูสึก หนีไมพน การปฏิบัติการเจริญสติของเราจะตอง ตอเนื่องอยางนี้ ขณะปฏิบัติจงใหอิสระกับสติ ใหอิสระกับสติที่จะ เกิดขึ้น สติของเราจะเกิดขึ้นเมื่อไร ตองพรอมที่จะใหเกิดและก็สานตอ พอมีสติเกิดขึ้นก็ใชสตินั้นสานตอกําหนดอารมณตอไปนะ เพราะอะไร บางทีเราไมใหอิสระกับการเจริญสติ เดี๋ยวก็ติดสิ่งนั้นบาง ไมมีเวลาบาง เหนื่อยบาง เพลียบาง ไมมีอิสระมีแตเวลามากั้นเอาไว มีแตสิ่งนั้นสิ่งนี้ จนไมมีเวลาเจริญสติ แตกับความอยากความตองการ ความคิดที่ฟุงซาน เราใหอิสระเกิดไดตลอด ไมวาจะเปนกอนนอน ขณะนอน ตื่นนอน ขณะพูดคุย ขณะทํางานความฟุงซานความอยากตาง ๆ เกิดไดอยางอิสระ เพราะฉะนั้น สิ่งเหลานั้นเกิดอิสระกวาสติ สติก็เลยถูกสิ่งเหลานั้นเบียด เบียนไป ตองตั้งจิตใหม เราจะใหอิสระกับสติของเรา ใหเกิดขึ้นไดตลอด เวลาไมวาจะเปนขณะไหนก็ตาม ไมวาจะเปน ขณะยืน เดิน นั่ง นอน ขณะ
93