Page 121 - มรรควิถี
P. 121

ถึงรู ความหลงยิ่งความหลงดวยแลวเปนเรื่องยากที่จะเขาใจ เพราะฉะนั้น เพื่อปองกันไมใหเราหลง เพื่อความรูเทาทัน ความโลภ ความโกรธ ความ หลงของตัวเอง เราจึงตองมีสติรูอยูกับปจจุบัน
วิธีที่งายที่สุดที่ทําไดดีที่สุดก็คือการแยกรูป-นาม ทําจิตของตัวเอง ใหวางกอน แลวกําหนดรูที่จิตตัวเองใหมากวารูสึกอยางไร กําหนดรูอารมณ ในปจจุบันใหมาก การที่เรากําหนดรูอาการเกิด-ดับของแตละอาการ แตละอารมณที่เกิดขึ้น ไมวาจะเปนการพูดการคิดหรือการกระทําของเรา เปนการปองกันความโลภ ความโกรธ ความหลงไปในตัว เปนการปองกัน อกุศลไปในตัว ที่เรียกวาอินทรียสังวร ก็คือการระวังอินทรีย ๖ ไดแกตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจไมใหกิเลสเกิดขึ้น การปองกันที่ดีที่สุดก็คือ การให ความรูสึกกวางกวารูป(ตัว) กวางกวาอารมณที่รับรู ไมวาจะเปนรูปเปนเสียง ก็ตาม เมื่อไรที่ความรูสึกเรากวางกวาอารมณอันนั้น เปนการสํารวมอินทรีย ๖ คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะอะไร เพราะวาเม่ือไรที่ความรูสึกเรา กวางกวาอารมณกวางกวาตัว อารมณตาง ๆ ที่เกิดขึ้นใหรับรูนั้น เกิดอยู ในความวางอยูไกลตัว เกิดอยูในที่โลง ๆ เกิดอยูในที่เบา ๆ อารมณ เหลานั้นไมสามารถเขามากระทบใจได เมื่อไรที่อารมณไมเขามากระทบ ถึงจิตใจ ความโกรธไมเกิดแนนอน ความทุกขก็ไมเกิดแนนอน การ หลงใหลในอารมณนั้นก็ไมเกิดเชนกัน นั่นคือการกําหนดรูอารมณ ปจจุบันเพราะฉะนั้นทําใหดีที่สุด การที่เราจะปองกัน ความโลภ ความโกรธ หรือความหลงที่เกิดขึ้นกับใจของเรา จึงตองทําใจใหวางคือดับตัวตน แลวขยายความรูสึกใหกวาง รับรูอารมณตาง ๆ ดวยความรูสึกที่ไมมีตัวตน ก็จะทําใหปองกันกิเลสตาง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได กิเลสขณะนั้นก็ไมเกิดขึ้น
เมื่อตองการยกจิตขึ้นสูวิปสสนา เพื่อใหละกิเลสอยางสิ้นเชิง ก็เอา ความรูสึกเขาไปเกาะติด กับอารมณที่เกิดในความวางนั้น พรอมกับ พิจารณาวาอารมณที่เกิดขึ้นนั้น เกิด-ดับในลักษณะอยางไร ความรูสึกที่
107


































































































   119   120   121   122   123