Page 122 - มรรควิถี
P. 122
108
เกาะติดกับอารมณ เกิด-ดับไปดวยหรือเปลา เกิด-ดับไปดวยหรือไม ตรงนี้คือสิ่งที่ตองพิจารณา เพราะฉะนั้นถาตองการเขาสูนิโรธหรือการ ดับทุกขจริง ๆ ก็ตองอาศัยวิปสสนากําหนดอารมณปจจุบันใหมาก กําหนด อารมณปจจุบันใหมาก ก็เพื่อที่จะใหเห็นอาการพระไตรลักษณ ของอารมณ ตาง ๆ นั่นเอง การเขาถึงอาการพระไตรลักษณ ของอารมณตาง ๆ ที่เกิด ขึ้น อาการพระไตรลักษณของรูป-นามที่เกิดขึ้น ทําใหการยึดติดหรือกิเลส ที่จะอาศัยอารมณนั้นไมเกิดขึ้น ตัวตนก็ดับกิเลสก็ดับ และกิเลสที่ละเอียด ที่ยังไมเกิดก็จะไมเกิดขึ้น ที่เคยเกิดขึ้นแลวก็ดับไป เพราะฉะนั้นการที่ จะเขาถึงสัจธรรมจริง ๆ หรืออริยสัจ ๔ จริง ๆ จึงตองอาศัยวิปสสนา กําหนดรู รูถึงอาการเกิด-ดับของรูป-นามเปนหลัก
นักปฏิบัติทุกคน ญาติโยมทุกคน ที่ตองการดับทุกขหรือตองการ ที่จะหลุดพนจากทุกข ตองการจะปฏิบัติเพื่อเดินทางไปสูเปาหมายสูงสุด ดั่งที่พระพุทธองคไดทรงแสดงไววา นิพพานัง สุขขัง นิพพานเปนสุข อยางยิ่ง ถาเปาหมายอยูตรงนั้นขอใหรูชัดวาเราจะทําอยางไร ถามีเปาหมาย ไมชัดไมรูชัดวาเราจะปฏิบัติไปเพื่ออะไร การปฏิบัติก็จะเปนไปในลักษณะ ไมตอเนื่อง ทําบางไมทําบาง แตถามีเปาหมายชัดเจนความเพียรก็จะตอเนื่อง และจะไมเกิดความรูสึกทอแทในการปฏิบัติของตัวเอง เพราะตองการที่ จะพนจากวัฏสงสารนี้อยางรวดเร็วคือในชาตินี้ เราก็ตองตั้งจิตอธิษฐาน คือ อธิษฐานจิตเพื่อทําไมใชอธิษฐานจิตเพื่อขอพระพุทธเจาอธิษฐานจิตเพื่อ ปฏิบัติบําเพ็ญเพียรในครั้งนี้ การอดอาหารในครั้งนี้เพื่อที่จะบรรลุธรรม ถา ไมบรรลุธรรมจะไมเสวยอาหาร นั่นคือการตั้งจิตเพื่อที่จะทํา เราชาวพุทธ ตองเขาใจนะ ตั้งจิตเพื่ออะไร ตั้งจิตเพื่อที่จะทําไมใชตั้งจิตเพื่อขอ อยาง คําวาขอพรก็เหมือนกัน สมัยกอนนางวิสาขาไปขอพรตอพระพุทธเจา ขอที่จะถวายผาอาบน้ําฝน ซึ่งเปนการขอพรเพื่อที่จะทํา เพราะฉะนั้นถาเรา ขอพรเราก็ตองรูแลววาขอเพื่ออะไรนะ ถาตั้งจิตอธิษฐานก็ตองตั้งจิต