Page 140 - มรรควิถี
P. 140

126
ทางใจ ทุกขทางใจก็คือ ความขุนมัว ความเศราหมอง โทมนัส อุปายาส ตรงนี้คือทุกขทางใจ
เมื่อแยกออกได แยกความรูสึกกับรูปออกจากกันได เมื่อเวทนาทาง กายเกิดแลวไมมีความทุกข ก็จะเห็นวามันเปนธรรมชาติอยางหนึ่งเอง ที่ตอง เกิดขึ้นเมื่อรางกายมีการกระทบ มีการผัสสะ เพราะกายของเรามันบอบบาง รูปของเราบอบบาง เมื่อกระทบกับของแข็ง ก็จะรูสึกวามีเวทนา มีความทุกข ขึ้นมา เวทนาเกิดขึ้น เรารูไดยังไง ? เพราะวาในรางกายของเราเนี่ยเต็ม ไปดวยประสาทสัมผัสตาง ๆ นะ เต็มไปดวยประสาทสัมผัสตาง ๆ เสน ประสาทตาง ๆ ที่เกิดขึ้นเขาเรียก ที่เรารูไดอีกอยางหนึ่ง องคประกอบ อีกอยางหนึ่งก็คือ จิตที่ทําหนาที่รับรูถึงอาการ ถึงเวทนาที่เกิดขึ้น เขาเรียก วาจิตตชรูป จิตที่อาศัยรูปเกิด ไมวาจะเปนกระทบจุดไหน เราจะรูสึก ขึ้นได ที่เรารูสึกไดเพราะมีจิตรับรู ถาไมมีจิตรับรู ถึงแมมีการกระทบก็ จะไมรูสึก หรือถามีรูปมีจิต แตประสาทสัมผัสสวนนั้นเสื่อมไป หรือวา ตายไป การกระทบเราก็จะไมรูสึกถึงอาการ ถึงเวทนาที่เกิดขึ้น แครูวา กระทบ
เราไมสามารถหลีกเลี่ยง หรือถามวาเราจะปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงเวทนา ที่เกิดขึ้นกับรูปไดมั้ย ถาโดยธรรมชาติแลวเปนเรื่องยากนะ เพียงแตวาเรา จะปองกันไมใหมันเกิดมากนะ เกิดนอยลง บางคนก็จะดูแล หาวิธีดูแล สุขภาพตาง ๆ ที่เราดูแลกันอยู ออกกําลังกายบาง ทานอาหารที่เปน ประโยชนบางเพื่อทําใหรางกายนี้เขมแข็งหรือแข็งแรง เพื่อปองกันโรคภัย ไขเจ็บที่เกิดขึ้น นั่นคือเพื่อบรรเทาหรือเพื่อปองกันเอาไว แตที่สุดแลว เราก็ไมสามารถปฏิเสธเวทนาที่เกิดขึ้นได อยางเชน ขณะที่เรานั่งอยูเนี่ย ถึงแมเราสุขภาพแข็งแรง แตวานั่งไปสักพัก อาการเมื่อย อาการชาก็เกิดขึ้น อันนี้เปนตัวบอกใหรูวา เวทนาเนี่ยเมื่อมีรูปอันน้ีเกิดขึ้น มีรางกายเกิดขึ้น อาการเจ็บ อาการปวด อาการเมื่อย อาการชา ก็เกิดขึ้นเปนธรรมดา


































































































   138   139   140   141   142