Page 199 - มรรควิถี
P. 199
เกิด เกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป หรืออีกอยางหนึ่งก็คือ ความเปนอนิจจัง คือมี การเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา ทุกขัง ตั้งอยูในสภาพเดิมไมได อนัตตา ไม สามารถบังคับบัญชาได แลวก็ไมมีตัวตน ไมมีความหมายของความเปน ตัวตน ไมใชเรา ไมใชเขา
เพราะฉะนั้นสภาวะทั้งหลาย สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเปนธรรมดา สิ่ง เหลานั้นคืออะไร ? การที่จะรูถึงธรรมชาติที่เกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป แลวทําให จิตใจคลายจากอุปาทาน คลายจากความเศราหมอง คลายจากการยึดติด ในอารมณนั้น ๆ ได อารมณที่เกิดขึ้น ที่เห็นแลวทําใหจิตเราคลายจาก อุปาทาน เมื่อไหรที่เห็นการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป ทําใหเรา คลายอุปาทานไดเร็ว ก็คือเห็นตามความเปนจริง คืออาการของรูปนาม อาการของรูปนามภายในอยางหนึ่ง อาการของรูปนามภายในก็คือรางกาย เรา จิตใจของเรานั่นเอง เพราะฉะนั้นการพิจารณาสภาวะตาง ๆ การพิจารณา ดูกาย ดูจิตตัวเอง ที่เราเคยศึกษาหรือฟงเนี่ย การกําหนดรูกาย กําหนด รูจิต เพื่อใหเห็นอาการเปลี่ยนแปลง เพื่อจะไดเขาถึงลักษณะของความ ไมเที่ยง ความเปนทุกข ความเปนอนัตตา เกิดขึ้น ต้ังอยู ดับไป ทําไมถึง ตองเขาถึงอาการเหลานั้น ?
ความรูอยางหนึ่งเบื้องตนที่เรารู เราไดยินไดฟง ศึกษา หรือ อาน มา การศึกษาคนควาจากหนังสือตาง ๆ ใหเราเห็น หรือเขาใจถึงวารูปนาม รางกายจิตใจของเราตั้งอยูบนกฏของไตรลักษณ ไมมีอะไรเลยที่เที่ยงแท ถาวร มีแตการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากเด็กก็เปนหนุมสาว จากหนุม สาวก็เปนคนแก เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาจนวาระสุดทาย แกแลวก็เจ็บ แลวสุดทายก็ตาย ไมมีใครอยูยงคงกระพัน ไมมีใครอยูอยางถาวรตลอด ไป นั่นคือความไมเที่ยงโดยบัญญัติเขาเรียก หรืออารมณบัญญัติคือความ เปนกลุมกอน เปนเรื่องราว ความเปนรูปที่เปนบัญญัติ หรือสมมติสัจจะ ความจริงโดยสมมติ ที่สมมติวาเปนเราเปนเขา รูปนามอันนี้ ก็จะมีการ
185

