Page 224 - มรรควิถี
P. 224
210
มีพลังมากขึ้นแลว ที่บอกวากอนหนาที่จะมีพลังมากขึ้น อาการเกิดดับเปน แบบนี้ พอมีพลังมากขึ้น พอเราไปรู อาการเกิดดับนั้นเปลี่ยนไปอยางไร ? ทีนี้ถาความรูสึกเรามีพลังขึ้น มีผลตรงที่วาเวลากลับไปกําหนดอาการ กําหนดอารมณตาง ๆ ความรูสึกที่มีพลังนี่แหละไปกําหนด ไมใชแคพลัง เปนแคบรรยากาศ สวนใหญพลังกลายเปนบรรยากาศ เวลาไปดูอารมณ เวลากําหนดอาการเกิดดับ เปนแคความรูสึกเฉย ๆ เหลือนิดเดียว ความ รูสึกตื่นตัวก็จริง แตวาแข็ง ๆ เล็ก ๆ ก็จะมุงไปท่ีอาการ ถึงแมอาการ มันจะชัด ชัด ชัด ดวยอํานาจของพลังที่มีอยูแลว แตก็จะตางไป เมื่อไหร ที่เรารู เอาความรูสึกที่มีพลังอันนี้เขาไปที่อาการอีกทีหนึ่ง แลวสังเกตวา อาการเกิดดับจะตางกันอยางไร ตางยังไงตองไปหากันเอง นั่นคือวิธีการ กําหนดสภาวะ
แลวอีกอยางหนึ่ง ที่บอกวาทุก ๆ อารมณที่เกิดขึ้น ที่เราทําใหตอเนื่อง เมื่อจิตเรามีพลัง เราสังเกตนอกจากอิริยาบถหลัก การนั่ง การเดิน การยืน การนอนแลว อารมณหลัก... อารมณหลักนี้หมายถึงวาอารมณปจจุบัน ในขณะนั้น ๆ อยางเชนพอเริ่มรูเวทนา ขณะนั้นเวทนาเปนอารมณหลัก อยางเชนเวทนาตั้งอยูภายใน ๕ นาที ภายใน ๕ นาทีนั้นเรากําหนดเวทนา เปนหลัก เพราะฉะนั้นเวทนาจึงเปนอารมณหลัก แตพอหลังจากเวทนา หายไป มีความคิดเขามาเยอะ มีความคิดเขามา เลยหันไปกําหนดความคิด เปนหลัก ความคิดคืออารมณหลัก เพราะฉะนั้นเวลาเราเลาสภาวะ ขณะ ที่กําหนดเวทนา เวทนาเกิดดับแบบนี้ สักพักมีความคิดเขามา พอหัน ไปกําหนดความคิด ความคิดเกิดดับในลักษณะอยางไร การที่เลาแยกชัด ตรงนี้ ความชัดเจนของนักปฏิบัติของโยคีเองจะชัด รูผลชัดเจนสภาพ จิตก็ชัด ลักษณะอาการเกิดดับก็ชัด และทําใหการปฏิบัติตอเนื่อง
อีกอยางหนึ่งก็คือวาแมในอิริยาบถยอยที่เราดําเนินชีวิตประจําวัน จะทําใหเราเกิดความเคยชินวาเมื่อไหรที่มีอารมณเหลานี้เกิดขึ้น เมื่อเรา