Page 226 - มรรควิถี
P. 226
212
ขยับ รูกอนพูด รูกอนทํา นั่นคือเห็นวาจิตสั่งกอนทํา จิตสั่งกอนพูด จิตสั่งกอนขยับ ตรงนี้ถาใช ๒ อยางควบคูกันไป การปฏิบัติเราทําได ตลอดเวลา อยูที่วาพอใจที่จะทํา ใสใจที่จะทํา มนสิการ ตองมีความเพียร มีตัวฉันทะ พอใจที่จะทํา
เพราะวาพอใจที่จะทํา เราไมไดทําเพราะวาเราอยากใหเปน สวนมาก ที่เรารูสึกวาทําไมได เวลากําหนดอารมณแตละครั้ง พอเริ่มลงมือปฏิบัติปุบ อยากเห็นทันที อยากใหมันเกิด พอไมปรากฏตามใจเรา เราก็จะรูสึกทํา ไมได ก็เลยไมทําตอ ความพอใจที่จะปฏิบัตินั้นหายไป ความเพียรหาย ไป ที่จริงถาเราพอใจที่จะทํากอน แลวผลจะตามมา เพราะสภาวะบางอยาง เราบังคับใหเกิดไมได โดยสวนใหญแลวเราบังคับใหเกิดไมได สภาวะ ตาง ๆ ที่เกิดขึ้นเกิดจากเหตุปจจัย เกิดจากอํานาจของสติและสมาธิ ของเราในขณะนั้น อยูที่กําลังของสติ สมาธิเรามากแคไหน การใสใจ ของเรา การพิจารณาของเรามีมากแคไหน สภาวะตาง ๆ จึงปรากฏชัดเจน ถึงจะเห็นอาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตาง ๆ ได
เพราะฉะนั้นพอใจที่จะทํา คํา ๆ นี้ที่ทานแมครูใชคําวา “พอใจที่ จะกําหนด พอใจในอารมณนั้น พอใจในความรูสึกอันนั้น” ทานเอามาใช กับเวทนา โยคีบางคนมีเวทนามาก รูสึกทนไมได นั่งเมื่อไหรก็มีเวทนา ทนไมได พอใจ ใหพอใจที่จะกําหนด พอใจที่จะดู ไมใชบังคับใหเขาหาย ถาเราไปบังคับใหเขาหาย ทุรนทุราย จิตใจจะไมสงบ จะรูสึกกระวนกระวาย แตถาเราพอใจที่จะดู หนึ่ง.. เราทําความพอใจที่จะดู แลวก็ทําความเขาใจ เขาใจในธรรมชาติของรูปนามขันธ ๕ พอมีเวทนาก็เปนอยางนี้ เขาใจวา รางกายของเราก็มีการเปลี่ยนแปลง เจ็บปวย ดีแลวที่ยังรูสึกปวดเปนพอใจ แลว ถาคนเรามีรางกายแลวปวดไมเปน นาหวงนะ คนปวดไมเปนก็จะขยับ ไมได เมื่อไหรที่ไมรูสึกปวดก็ขยับยากแลวนะ แสดงวาเสนประสาทตาง ๆ สวนนั้นไมคอยทํางานแลว เพราะฉะนั้นถายังรูสึกปวดอยูนะดีแลว พอใจ