Page 228 - มรรควิถี
P. 228
214
ซึ่งจริง ๆ แลวนักปฏิบัติเรา ที่เราเห็นความจริงนะ เขาไปดูเลย ใน รูปนี้รูปที่นั่งอยู รูสึกไหม ? หาเจอไหม ? แตละสวนของรางกายที่นั่งอยู ลองไปดู ที่แขน ที่ขา ที่มือ ที่ศรีษะ ที่สมอง ที่ตา ดูวาถาเขาไปดู มีรูปราง ไหม ? หาเจอไหม ? ทุกอยางวางเปลา มันแปลกตรงที่วา เราไมสามารถหา รูปเราเจอ ตรงนี้คือความเปนอนัตตา เห็นแตความเปนอนัตตา ความวางเปลา เมื่อไหรก็ตามที่เห็นในลักษณะอยางนี้ สภาพจิตเราเปนยังไง ? จิตใจ เรา รูสึกยังไง ? แตถามองดวยตา ยังอยูเทาเดิม แตในความรูสึก ดูดวยความ รูสึก ทุกสวนวางเปลา นี่เปนตัวบอกวา โดยปกติจิตของเราไมไดติดกับรูป แลว เขาเรียกไมหลงผิด ไมยึดติดวาอันนี้คือตัวตนของเรา เรียกสักกาย- ทิฏฐิ ความเขาใจผิดคิดวา รูปนามขันธ ๕ อันนี้เปนตัวเราของเราหายไป เหลือแตสมมติบัญญัติก็คือความจํา หรือสัญญาที่เราจําไดวานี่คือตัวเรา แตตัวตนที่ละเอียด ความเปนอัตตาที่ละเอียด ก็ตองอาศัยการปฏิบัติที่ ละเอียดมากขึ้น แตโดยจริง ๆ แลว ถาเมื่อไหรที่เรารู ก็เปนอยางนั้น
อีกอยางหนึ่ง วิธีสูกับเวทนา มีเวทนาเกิดขึ้น บางครั้งมีเวทนามาก ๆ วิธีสู ไมตองปดเขา เราสรางพลังเปนแลว นอมพลังจากตนไม ภูเขา แม น้ํา ลําธาร อาคาร กอนหิน เวลาเราดึงพลังจากสิ่งเหลานั้น เราใชวิธีเอาความ รูสึกไปตั้งขางหนา สมมติวาเวลาเราดึงพลังจากกอนหิน ความรูสึกไปตั้งขาง หนากอนหิน แลวนอมเอาพลังจากกอนหินถาเราตองการพลังความมั่นคง พอเรานิ่งอยูขางหนากอนหิน แลวก็รับพลัง ใหพลังไหลเขามาในความรูสึก เขามาที่รูปของเรา แลวก็ขยายความรูสึกใหเต็มรูป จะทําใหรูปเรามั่นคง ความรูสึกของรูปก็แข็งแกรง นี่คือวิธีดึงพลัง
เมื่อมีเวทนาขึ้นมา ใหแยกออก ความรูสึกเรากับเวทนาเปนคนละ สวนกัน เอาความรูสึกนิ่ง ๆ ไปตั้งขางหนาเวทนา แลวดึงพลังจากเวทนา เวทนาย่ิงปวดมากเทาไหร จิตเรายิ่งมีพลังมากเทานั้น เพราะวาเวทนายิ่งปวด กําลังเขามีมากเทาไหร เราก็ดึงกําลังอันนั้นแหละเขามาที่ความรูสึก ไมใช