Page 271 - มรรควิถี
P. 271

สาม.. ก็คืออาการ อยางเชนเวลาเรารูปุบ รูวาบรรยากาศเปนยังไง เห็นตนจิตสั่ง สมมุติเวลาเราจะขยับมือ จิตมันแวบไปที่มือ แลวก็มือเคลื่อน ไป ตรงที่มือเคลื่อน เขาเรียกอาการ อาการของอิริยาบทยอย อาการตาง ๆ สามอยางนี้สังเกตควบคูกัน สภาพจิต ตนจิต แลวก็อาการ ไปดวยกัน ไมตองไปกังวลวาทันไมทัน ไมเปนไร ใหเราพอใจที่จะกําหนดรู เมื่อไหรที่ เราพอใจ ทันบางไมทันบาง ตอไปเขาก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันมากขึ้นเอง เขาก็จะตอเนื่องมากข้ึน
พอสติเรามีกําลังมากขึ้น อาการเหลานี้ก็จะชัดดวย จะชัดไปเอง จะทันเอง แตถาเราทําบางไมทําบาง มันก็เห็นบางไมเห็นบาง ใชไหม ? ธรรมะ เกิดขึ้นสมควรแกการปฏิบัติ มันจะเกิดขึ้นมากกวานั้นไมได นี่แหละเขา ซื่อสัตย ธรรมะไมเคยลําเอียง ใชไหม ? คนนี้ใจดีหนอย เพราะฉะนั้นให เห็นมากหนอย ไมได ไมใช เกิดขึ้นตามที่เราปฏิบัติ สมควรแกการปฏิบัติ
เพราะฉะนั้นความเพียรเรา อยางหน่ึงนะที่จะทําใหเราไมตองฝนคือ มีตัวฉันทะ มีความพอใจที่จะรู พอใจที่จะตามรู กําหนดรูจิตของเรา แค พอใจ แลวเราจะไมอึดอัด แตถาเราฝน จะอึดอัดทันที มีตัวตน ฝนเมื่อ ไหร มีตัวตนเมื่อนั้น แลวจะกําหนดอะไรไมไดเลย จะเกิดความหงุดหงิด เพราะจะทําใหเห็น พอฝนเมื่อไหร มีตัวตน จะกําหนดสภาวะที่ละเอียด ไมเห็น แตถาเราพอใจที่จะทํา เปนความพอใจที่ไมมีตัวตน พอใจแลวจิต วาง พอใจแลวจิตเบา เมื่อจิตเบา แสดงวาสติเรามีกําลังมากขึ้น สมาธิมีกําลัง มากขึ้นแลว จิตเราอิสระขึ้น จิตเราจะผองใสขึ้น เพราะฉะนั้นจะเห็นอาการ ตรงน้ีไปเอง แคเรามีเจตนาที่จะรู เราก็จะรูไดตอเนื่อง แคน้ันเอง ไมตอง บังคับ แตพอใจ เขาเรียกตัวฉันทะ
ฉันทะเปนจุดเริ่มตนของการนําไปสูความเจริญใชไหม ? ฉันทะ.. พอใจ วิริยะ.. เราพอใจที่จะดู ความเพียรก็เกิดขึ้น เมื่อความเพียรเกิด อะไร เกิด ? จิตตะ.. ใสใจรูรายละเอียดของอาการนั้น ๆ วิมังสา.. หมั่นพิจารณา
257


































































































   269   270   271   272   273