Page 34 - มรรควิถี
P. 34
20
การพิจารณาอยางไมมีตัวตนอันนี้ เรายังรูถึงความเปนบัญญัติเปนรูปราง เปนกลุมกอน เปนเรื่องเปนราวอยู
เวลาปฏิบัติใหมีอิริยาบถหลัก อิริยาบถหลักก็คือ ยืน เดิน นั่ง หรือนอน ในแตละอิริยาบถใหรูวาเรากําหนดอะไร ? ขณะที่ยืนไมวาจะยืน ทําอะไรก็ตาม ไมวาจะยืนเฉย ๆ ยืนนิ่ง ๆ ยืนพูด ยืนคุย ยืนสนทนาธรรม กัน วิธีพิจารณาก็คือ ขณะที่ยืน ยนื อยูในบรรยากาศแบบไหน ? ยืนอยูใน ความวางหรือเปลา ? ทําไมตองพิจารณาอยางนั้น ? เพราะการพิจารณาอยาง นี้ ทําใหจิตไมเกาะกับรูป ตัวตนไมเกิด ลองสังเกตดูนะ ขณะที่เราสังเกต รูถึงอาการนั่ง เรานั่งอยูในที่วางหรือเปลา รอบ ๆ ตัววางมั้ย ? จะรูสึกวา รอบ ๆ ตัวนี้วางเปลา รูปจะตั้งอยูบนความวางแลวก็รูสึกเบา นั่นคือความ เปนอนัตตา ความรูสึกวารูปนี้เปนเราถูกทําลาย ก็เห็นตามความเปนจริง ขณะที่เรานั่งพอวางสงบ รูปนี้จะตั้งอยูในความวาง ขางหนาก็วาง ดานขาง ก็วาง รอบ ๆ ตัววางหมด ใหนิ่งอยูกับความวางขางหนา ขณะที่นิ่งในความ วางขางหนา สภาวะจะปรากฏใหเรากําหนด สภาวะก็คืออาการเกิดดับของ รูปนามนั่นเอง อยางเชนขณะนี้ ความรูสึกเรานิ่งอยูขางหนา ตองนิ่งดวย ความรูสึกที่ตื่นตัว อยานิ่งแบบเบลอ ๆ เหมือนกับจะหลับ ตองนิ่งดวย ความรูสึกที่ตื่นตัวจึงจะมีสติ
พอนิ่งปบ ในความวางนั้นมีอะไรเกิดขึ้นมา ? พอหลับตาปุบนิ่งใน ความวาง มีสี มีแสง เกิดขึ้น ? มีอาการระยิบระยับเกิดขึ้น ? มีอาการวูบ วาบเกิดขึ้น ? มีอาการกระเพื่อมเกิดขึ้น ? หรือวา มีเสียงเขามารบกวน ? มีความคิดเขามา ? ลองสังเกต ถามีความคิดเขามาในความวาง นั่นคือ อารมณใหม เปนอารมณปจจุบันที่เราตองกําหนด ที่เราตองเอาความรูสึก เขาไปกําหนดรู อยางเชนขณะที่เรานั่ง พอนั่งปุบพอสงบนะความคิดเขามา พอมีความคิดเขามาอยาปฏิเสธความคิด ใหพิจารณาดูความคิดที่เกิดขึ้น ใหเอาความรูสึกวางไปที่ความคิด ขณะเอาความรูสึกวางไปที่ความคิด