Page 349 - มรรควิถี
P. 349
วา “อัตตกิลมถานุโยค” อัตตกิลมถานุโยค หมายถึง การทรมานตนเองจนถึง ที่สุด จนจิตคลายจากอุปาทาน หรือพนจากทุกข ไมยึดมั่นถือมั่น
เมื่อพระพุทธองคทรงตรัสรูแลว ก็เลยพิจารณาดูวาจะไปโปรดใคร เปนคนแรก ตอนแรกก็นึกถึงอาจารยอาฬารดาบส อุทกดาบส ที่จะไปสอน ทานหนึ่งก็เสียชีวิตไปแลว อาจารยอีกทานหนึ่งก็เสียชีวิตไป ก็เลยนึกถึง ปญจวัคคียทั้ง ๕ จึงเสด็จไปโปรดปญจวัคคียทั้ง ๕ ไดแสดงที่สุดสองอยาง ใหฟง การที่จะบรรลุธรรม การทรมานตนเองจนมากเกินไป ที่เรียกวา อัตตกิลมถานุโยค ไมใชทางที่สุดแหงทุกข ไมใชทางพนทุกข พระองคได อดอาหาร ทรมานตนอยางหนัก ๔๕ วัน ที่เรามีภาพ จนพระองคเหลือแต โครงกระดูก นั่นคือปางที่พระองคบําเพ็ญทุกรกิริยา ทรมานตนเอง เมื่อ ทรมานไปจนที่สุดแลว จึงรูสึกวานั่นไมใชทางแหงทางหลุดพน ไมใชวิธี ปฏิบัติแหงทางหลุดพน
ดังนั้นจึงดําริ แลวก็ออกมาเสวยอาหาร นางสุชาดาเปนผูที่ถวายอาหาร มื้อแรกแกพระองค ถวายอาหารแลวก็ตั้งจิตอธิษฐาน พอพระองครับอาหาร แลวก็ต้ังจิตอธิษฐาน เสวยอาหารเสร็จ ถือถาดอาหารนั้นตั้งจิตอธิษฐานวา ถาการปฏิบัติธรรมของพระองคจะบรรลุเปนพระอรหันต หรือเปนพระพุทธเจา แลว ขอใหถาดนั้นลอยทวนน้ํา หลังจากนั้นก็บําเพ็ญเพียรตอ แลวก็ไดบรรลุ พระสัมมาสัมโพธิญาณ เปนพระสัมมาสัมพุทธเจา เปนพระสัพพัญู เปน ผูรูแจงโลกทั้งปวง ทั้งหมด เลยแสดงเรื่องนี้ใหปญจวัคคียทั้ง ๕ ฟง
แลวก็เรื่องการบํารุงปรนเปรอตัวเองมาก ๆ เพื่อหาความสะดวกสบาย ตาง ๆ มาสนองความตองการของตัวเองมาก ๆ ก็ไมใชทางหลุดพน หรือ ไมใชทางที่จะทําใหพนทุกขอยางแทจริง เพราะฉะนั้นคนเราปจจุบันที่แสวงหา สิ่งนั้นสิ่งนี้ สนองความอยากความตองการไมมีที่สิ้นสุด เพื่อที่จะไดมาซึ่ง ความสุข อยากไดสิ่งนั้น ก็คิดวานาจะมีความสุข ก็หามา อยากไดสิ่งนี้ คิด วานาจะมีความสุข ไดมาแลวคิดวามีความสุข ก็หามา
335