Page 351 - มรรควิถี
P. 351
ของขันธ ๕ นั้น หมายถึงทั้งรูปและนาม เพราะฉะนั้นความทุกขที่เกิดขึ้น จัดเปนทุกขกาย ทุกขใจ เวทนาของขันธ ๕ ในที่นี้จึงหมายถึงวาเวทนา ทางกาย รางกายเจ็บปวด แลวก็เวทนาทางใจ สุขเวทนา ทุกขเวทนา และ อุเบกขาเวทนา เวทนาทั้งหลายทั้งปวงก็ไมเที่ยง เกิดขึ้นแลวก็ดับไป มีแลว หายไป ไมมีอะไรเที่ยงแทแนนอนถาวร
สัญญา.. ความจํา เรื่องราวที่ผานมาในอดีต แลวที่เราจําไดนั้น ก็ลวน แลวแตไมเที่ยง จําไดแลวก็ลืม บางอยางเราอยากจะจํา มันก็ลืม บางครั้ง เคยจําได แตลืมไปแลว หายไปแลว ความจําหายไป ตัวสัญญาเอง สัญญา ก็ไมเที่ยง เกิดขึ้นแลวก็ดับไป หายไป
สังขาร..คือการปรุงแตง สังขารมี ๒ อยางเหมือนกัน สังขารก็คือ อาการของรางกายเราที่เรียกวารูป ที่ปรุงแตงดวยธาตุ ๔ และขันธ ๕ รูป สังขารก็ไมเที่ยง พระพุทธเจาจึงตรัสใหเราพิจารณาเนือง ๆ วา เรามีความ เกิดเปนธรรมดา เรามีความแกเปนธรรมดา และมีความตายเปนธรรมดา แลวรูปอันนี้เกิดขึ้นมาแลว ตั้งอยู จากเด็กก็เปลี่ยนเปนผูใหญ จากผูใหญ ก็เปลี่ยนเปนคนแก จากคนแกก็เปลี่ยนเปนไมมีอะไร ตายไปเปนความ วางเปลา เหลือแตเถาถานกลับสูสภาพเดิม คือความไมมีอะไร นี่คือรูป ไมเที่ยง สังขารที่เปนรูปสังขารไมเที่ยง
สังขารอีกอยางหนึ่งก็คือ จิตตสังขาร เปนนาม ซึ่งสังขารตัวนี้จะเปน ตัวสําคัญอีกอยางหนึ่ง เปนตัวสําคัญที่พาเราใหไปเกิดตออีกหรือไม เรา จะเวียนวายตายเกิดในภพชาตินี้ ในโลกตาง ๆ มากนอยเพียงไร ก็อาศัย ตรงนี้อยางหนึ่ง สังขารคือการปรุงแตง ปรุงแตงที่เปนกุศล เขาเรียกวา “ปุญญาภิสังขาร” การปรุงแตงที่เปนบุญ ปรุงแตงในเรื่องฝายกุศล ปรุงแตง ในสิ่งที่ดี ๆ และอีกอยางหนึ่งก็คือ “อปุญญาภิสังขาร” สังขารที่เปนบาป สังขารที่ไมใชบุญ ปรุงแตงแบบไมเปนบุญ เปนอกุศลไป เปนบาปไป ถา ปรุงแตงที่เปนบาป แลวเราก็คลอยตามหลงใหลไปในความปรุงแตงนั้น
337