Page 364 - มรรควิถี
P. 364

350
อาศัยบัญญัติเกิด กิเลสก็อาศัยบัญญัติเกิด ความเศราหมองก็อาศัยบัญญัติ เกิด อาศัยความเปนเราเกิดขึ้น กิเลสอาศัยความเปนเราเกิดขึ้น แลวความ เปนเราอาศัยอะไรเกิด ? กิเลสอาศัยความเปนเราเกิดขึ้น ความเปนเราอาศัย ความไมรูเกิด ที่เรียกวา “อวิชชา” ไมรูวารูปนามอันนี้ไมมีอะไรเปนของเรา เลย กําลังเปนไปตามเหตุตามปจจัย แลวเขาไปหลงยึดติดกับรูปนามอันนี้ วาเปนตัวเราของเรา มีอะไรเกิดขึ้นก็เรา กลายเปนวาเมื่อมีเราเกิดขึ้น กิเลส ก็เกิดขึ้น เมื่อมีกิเลสเกิดขึ้น ความทุกขก็เกิดขึ้น ภพชาติเกิดขึ้น ความทุกข ก็เกิดขึ้น กลายเปนวัฏฏะ
เมื่อไหรที่เราตัดวงจร ไมมีเรา กิเลสเกิดไมได เมื่อกิเลสเกิดไมได อกุศลตาง ๆ ไมเกิด ตัณหาดับไป หมดไป กลายเปนความวางเปลา จิต ก็จะอิสระ “จิตก็จะอิสระ” ไมถูกพันธนาการดวยความโลภ ความโกรธ ความหลง มนุษยเรา สัตวโลกตาง ๆ ที่วนเวียน เวียนวายตายเกิดอยูใน กฏของวัฏฏสงสารนั้น เพราะถูกพันธนาการดวยโลภะ โทสะ โมหะ ตรงนี้ แหละที่พันธนาการสัตวโลกใหเวียนวายตายเกิดไมมีที่สิ้นสุด ไมสามารถ หลุดออกจากวัฏฏสงสารได
เพราะฉะนั้นถาเราอยากจะหลุดพนจากวัฏฏสงสาร ปรารถนาที่จะ พนทุกข ไมตองมาเวียนวายตายเกิดอีกตอไป ก็ตองใสใจ มีความเพียร ใหความสําคัญในการเจริญสติ ในการปฏิบัติธรรม ในการขัดเกลาจิตใจตัว เองเปนที่ตั้ง ดวยการเจริญสติ มีสติรูอยูกับปจจุบัน ไมวาเปนขณะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทํา พูด คิด ทุก ๆ ขณะจิต
เพราะฉะนั้นที่บอกใหเจริญตนจิต ใหกําหนดรูตนจิต ก็คือใหเรา มีสติรูอยูทุก ๆ ขณะจิต ทุก ๆ อาการที่เคลื่อนไหวของรางกาย ก็คือ ตนจิต จิตเปนผูสั่งกอนทุก ๆ ขณะ เพียงแตใหเราเขาไปรูถึงธรรมชาติของ จิตที่ทําหนาที่สั่งรูปเรา สั่งอาการตาง ๆ ของรางกายเราใหมีการเคลื่อนไหว เห็นไหมละเอียดขึ้นนะ ไมใชแบบรูผาน ๆ ไมใชไมสําคัญ นี่คือการรูวิถีจิต


































































































   362   363   364   365   366