Page 384 - มรรควิถี
P. 384
370
ความใสทําหนาที่เห็น ไมมีลูกตา รูสึกตามความเปนจริง
โยมกราบเรียน : บางทีนั่งแตละวันนี่ก็ บางวันก็ไดตั้งใจถึง ๑๐ นาที
พอวันรุงขึ้นเหมือนกับเหนื่อยหนอยงั้นก็แค ๕ นาทีก็พอ พระอาจารยตอบ : ไดนะ ถาเหนื่อยจริง ๆ เราก็ใชวิธีนอนกําหนด
ก็ได ถารูสึกลา รางกายเราลา เราก็นอนกําหนด อยางที่บอกแลวแคนอน แลวก็ยกจิตขึ้นสูความวางคลุมตัว แลวก็ดูลมหายใจไป
โยมเลาสภาวะ : แลวบางทีเวลานั่ง ๆ บางทีก็ไดยินเสียงอะไร เราก็ยังรูสึกสะดุง
พระอาจารยตอบ : ยังรูสึกสะดุง แสดงวาจิตเราที่เปนอยางนั้น เพราะอารมณหลักตรงนั้นเนี่ย จิตเรามุงอยูกับอารมณนี้ก็จริง แตมันไม เกาะติดทีเดียว บางทีเรากําลังตามอารมณนี้อยูดี ๆ เสียงดังปุบก็จะ สะดุง เขาเรียกจิตยังไมดิ่ง ที่จริงขณะที่เราเจริญสตินี่ เขาจะรู จิตจะไว บางครั้งเสียงเบา ๆ ก็จะรูสึกดังมาก อันนี้เกิดจากสมาธิของเรา พอจิตเรา ยิ่งเงียบ อารมณที่เกิดขึ้นยิ่งชัด ตรงนั้นไมเปนไร แครูสึกสะดุงแลวก็รูใหม ทําตอได
โยมเลาสภาวะ : มันวางแลวเรารูสึกวามันวาง ตัวเรามันเหมือน หาย แขนขาเหมือนไมมีความรูสึก ที่มีความรูสึกอยูคือสวนที่มันยัง เหมือนกับที่ชา ตรงนี้นี่ใหเรากําหนดวาชา ?
พระอาจารยตอบ : แคเอาจิตที่วางไปที่อาการชานั้น ดูวาเขาหาย ยังไง ? เอาจิตที่วางเขาไปแลวอาการชานั้นคอย ๆ จางหาย หรือวามีการ เปลี่ยนแปลงอยางไร ? ใหสังเกต
โยมเลาสภาวะ : แลวตอมาก็รูสึกวาใจเราคิด แลวเราจะทํายังไง ? คิดตอหรือวา...
พระอาจารยตอบ : ใหเอาจิตที่วางไปรูความคิดที่คิด สังเกตนะขณะ ที่คิด เรื่องที่คิดอยูในที่วาง ๆ หรือเขามาที่ตัว ? อันนี้จุดหนึ่ง นอกจากนั้น