Page 62 - มรรควิถี
P. 62

48
นิจจังก็ถูกทําลาย เมื่อไหรที่เราเห็นวาเปนทุกขัง ความรูสึกวาเปนสุข(เที่ยง) จะถูกทําลาย เมื่อไหรที่เห็นความเปนอนัตตา อัตตาก็ถูกทําลาย เมื่ออัตตา ถูกทําลายผลจะเปนยังไง ? ไมมีตัวตนดีอยางไร ? มีตัวตนไมดีอยางไร ? นี่..ตองมีการเปรียบเทียบ ที่สําคัญตองเอาธรรมะไปใชในชีวิตประจําวัน สิ่งที่ควรเอาไปใชก็คือสติกับปญญาตองใชมาก ๆ ปญญานี้มีหลายอยาง ปญญาทางโลก ปญญาทางธรรม ทางโลกก็ตองเรียนรูศึกษาไมรูจบหรอก แตละอยางก็ตองเรียนรูไป มีของใหม ๆ เกิดขึ้นเรื่อย สิ่งไหนที่เกี่ยวของ กับเราตองทําความเขาใจ แลวทางธรรมไปใชกับชีวิตอยางไร ? ปญญาทาง ธรรมก็คือวา เมื่อเรารูทุกอยางเปนอนิจจัง ทุกอยางเปนอนัตตา ทุกอยาง ไมมีตัวตน เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สรุปอยางนี้ไดเราก็ปลอยวางได แลว ก็กําหนดอาการเกิดดับตอ ขยายความรูสึกใหกวาง ทําจิตเราใหวางใหเปน อนัตตา ทําลายอัตตา ตัวตนบอย ๆ กิเลสอาศัยไมไดหรอก กิเลสอาศัย ความเปนอนัตตาเกิดไมได
ทําไมความคิดจึงตั้งอยูไดนาน ? เพราะเราคิดซ้ํา ๆ เราไมเห็นอาการ เกิดดับของความคิด ความคิดนั้นดับไปแลวมีชองวาง ชองวางนั้นกิเลสจะ ไมเกิด แตเมื่อไหรความคิดเกิดแลวตั้งอยูนาน กิเลสก็จะอาศัยเรื่องที่คิด นั้นเกิด แตถาเห็นอาการคิดเริ่มเกิดแลวก็ดับ เกิดแลวก็ดับ ๆ แลวก็วาง ดับแลวก็วาง ไมตองไปกังวลวากิเลสตัวไหนดับไปบาง ? ไมตองไปสนใจ เพราะกิเลสยังไมเกิดก็ดับเสียแลว ไมวาจะเปนโลภะ โทสะ หรือโมหะก็ตาม จะดับไปโดยอัตโนมัติ เมื่อไหรที่อารมณโทสะเกิดขึ้นมา เราจะตองดับโทสะ กอน ตรงไหนเราเห็นชัดก็ดับตรงนั้น แตถาเรากําหนดอาการเกิดดับ ของสภาวปรมัตถของรูปนาม อาการเกิดดับของรูปนามปรมัตถจะไมมี กิเลสเกิดขึ้น เพราะสภาวปรมัตถจะวางจากกิเลส ขณะที่เรากําหนดอาการ เกิดดับกิเลสเกิดไมได มีแตปญญาเทานั้นที่เกิด ของเราปฏิบัติเนนที่ กําหนดสภาวปรมัตถ คืออาการเกิดดับของรูปนาม เมื่อเรากําหนดอาการ


































































































   60   61   62   63   64