Page 81 - มรรควิถี
P. 81

เรียกวาเปนไปตามเหตุปจจัยไมใชไปบังคับจึงตองทําเหตุปจจัยใหดีขึ้น การทําเหตุปจจัยใหดีขึ้นก็คือ การเพิ่มสมาธิสติใหมีกําลังมากขึ้น เทานั้นเอง
ขณะที่เห็นอาการดับแตไมเห็นการเปลี่ยนแปลง(รูปดับนามไมดับ) เกิดจากเขาไมถึงอาการนั้น ไดแคเห็นจึงไมเห็นการเปลี่ยนแปลง การที่ จะใหทันปจจุบันจริง ๆ ความรูสึกตองอยูที่เดียวกับอาการ ในขณะที่ ความรูสึกแตะถูกอาการ นั่นเปนลักษณะอาการที่ทันปจจุบันจริง ๆ เขาถึง จริง ๆ เมื่อทําไดตอเนื่องสภาวะจะกาวหนาเร็ว สิ่งที่ตองรูก็คือวาขณะนี้ เราจะกําหนดอยางนี้เพื่ออยางนี้ ไมใชวาเราอยากเห็นอยางนี้อยากเห็น อยางนั้น นี่เปนความอยากแลวเปนความอยากที่มีตัวตน ทางสายกลาง ไมเกี่ยวกับความอยาก ความชอบหรือไมชอบ ไมเกี่ยวกับความอยากหรือ ไมอยาก ถาอยากเมื่อไรก็ไปไมถึง อยากได มรรค ผล นิพพาน อยากได นะเรียกมีเปาหมายชัดเจน ถาอยากก็ตองทําอยางนี้ ไมใชนั่งอยากอยู อยางนั้นแลวไมทําอะไร พระพุทธเจาตรัสกับพระอานนทวา “เราอาจอาศัย ความอยาก เพื่อละความอยากได” ก็คือถาอยากที่จะหลุดพนก็ตองอาศัย ความอยาก แลวก็ปฏิบัติเพื่อที่จะละความอยาก พอปฏิบัติหลุดพนแลว ความอยากที่อยากจะหลุดพนก็หายไป อยากอยางอื่นก็หายไปดวย แมแต กระทําความดีก็ไมไดอาศัยความอยากของความมีตัวเอง อาศัยเหตุปจจัย ที่ควรทํา พระพุทธเจาแสดงความดีใหประจักษใหเห็น ใหคนแยกแยะ ออกวาอันนี้ดี อันนี้ไมดี ถาตองการความสุข สงบ สันติแกชีวิต ก็จะตอง เลือกทําความดี ตองปฏิบัติตามคําสอนของพระพุทธเจา เพื่อความสันติ สุข เพื่อใหความดีของตัวเองเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะฉะนั้น พระพุทธเจา จึงไดประกาศวา “เราแสดงธรรมเพื่อใหคนศรัทธา เราไมไดแสดงธรรม เพื่อตองการสาวก แตแสดงธรรมเพื่อใหบุคคลเหลานั้นพนจากทุกข” เห็นมั้ยพระองคไมไดทําเพื่อตัวเองสักอยาง พระองคทําเพื่อใหสรรพสัตว
67


































































































   79   80   81   82   83