Page 23 - สภาพจิต
P. 23
17
ให้โยคี หรือผู้ปฏิบัติเข้าไปก�าหนดรู้จนอาการเกิดดับน้ีหมดไป ในขณะทต่ี ามกา หนดรสู้ ภาวธรรมทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงเกดิ ดบั อยนู่ ้ี อกี จดุ หนง่ึ ทผ่ี ปู้ ฏบิ ตั พิ งึ ใสใ่ จเขา้ ไปกา หนดรกู้ ค็ อื ตวั จติ ทเี่ ขา้ ขา้ ไปตามรอู้ าการ เกิดดับในแต่ละขณะ ๆ ๆ ๆ มีการเกิดดับไปด้วยหรือเปล่าในแต่ละขณะ ๆ ๆ ๆ นั่นคือขณะท่ีจิตตามรู้ถึงอาการเกิดดับท่ีเป็นขณะ ๆ ๆ ๆ ๆ นั้น ให้รู้สึกว่าจิตอยู่ ทเ่ี ดยี ดยี วกบั อาการ อาการ อาการ อาการ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ผตู้ ามดอู ยหู่ า่ า่ ง ง ง ง ง ง ๆ ๆ ๆ และถงึ แมจ้ ะรสู้ กึ วา่ จติ อยทู่ เี่ ดยี ดยี ว ว ว ว ว ว กับอาการแล้ว ก็ยังต้องสังเกตว่า ขณะท่ีอาการน้ันดับแต่ละขณะ ๆ ๆ ๆ รสู้ กึ วา่ วา่ จติ จติ ทอี่ ยทู่ ยทู่ ยทู่ เ่ี เ่ี ดยี ดยี ดยี วกบั วกบั วกบั อาการดบั ไปดว้ ยหรอื เปลา่ ในแตล่ ะขณะ ะขณะ ๆ ๆ คา วา่ วา่ “จติ อยทู่ อยทู่ เี่ ดยี ดยี ดยี วกบั วกบั วกบั อาการ” กเ็ หมอื นเราอยทู่ เ่ี เ่ี ดยี ดยี ดยี วกบั วกบั วกบั อาการเกดิ ดบั ดบั นน่ั แหละ พออาการดับ-เราดับด้วยหรือเปล่า ? นั่นคือสังเกตอาการเกิดดับของรูปนาม ที่เป็นปรมัตถ์ การสังเกตแบบนี้จะไม่เหลือเศษอารมณ์เวลาอาการดับไป ในแต่ละขณะ “ไม่เหลือเศษอารมณ์” เป็นอย่างไร ? พระไตรลักษณ์ เวลาอารมณ์น้ันดับไป รู้สึกว่าใจรู้หรือเราดับตามไปด้วย ไม่เหลือเศษอารมณ์ พออาการเกิดดับปรากฏข้ึนมาใหม่ เห็นจิตเกิด พร้อมกับอาการ หรือจิตเกิดก่อนอาการ อันนี้ก็จะมีความชัดเจน หรือขณะที่ เห็นจิตดับไป แล้วผู้ปฏิบัติรู้สึกข้ึนมาใหม่ เห็นเป็นจิตดวงใหม่ ไม่ใช่ของเดิม และดับไปแต่ละขณะ จิตดวงใหม่ข้ึนมาแต่ละคร้ังมีความผ่องใส มากกว่าเดิม มีความอิสระมากขึ้นกว่าเดิม มีความสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม นั่นคือส่ิงส�าคัญว่าท�าไมจึงต้องให้รู้สึกว่าเวลาอาการดับ-จิตดับด้วยหรือเปล่า เขาเรียก วิถีความเป็นไปของรูป-ของนาม วิถีจิต-วิถีรูปที่เป็นปรมัตถ์ ที่มีการ