Page 24 - สภาพจิต
P. 24
18
เปลี่ยนแปลงมีการเกิดดับ ขณะมีการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปอย่างไร
ผลที่เกิดขึ้นมาจะประกาศตนเอง ใครท่ีได้เห็นรูปนามดับในแต่ละขณะ จิตจะมีความผ่องใส มีความสะอาด มีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม น่ันเป็นจิตดวงใหม่ขณะแรกที่เกิดขึ้นมา โลภะ-โทสะ-โมหะ ยังไม่แผ้วพานกับอารมณ์ต่าง ๆ ๆ แต่รู้สึกได้ทันทีว่าเกิดข้ึนมา แล้วจิตมีความผ่องใส มีความตั้งมั่น มีความสะอาดมากข้ึน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ สภาพจิตใจโดยรวมจะเปล่ียนไป เมื่อสภาพจิตมีพลัง มีความสงบ มีความหนาแน่นแล้ว บริเวณรูปมีความผ่องใส มีความสว่าง มคี มคี วามตงั้ มนั่ มคี มคี วามสะอาดเชน่ เดยี วกนั หรอื เปลา่ ? สงั เกตวา่ จติ ทผี่ อ่ งใส งใส ส่งผลต่อรูปหรือกายอย่างไร น่ันเป็นสิ่งท่ีผู้ปฏิบัติพึงสังเกตพึงพิจารณา เขาเรียกว่า “ธัมมวิจยะ” ลักษณะของสภาวธรรม ที่เป็นสภาพจิตที่ปรากฏเกิดขึ้นมานั้น ไม่เก่ียวกับความคิด แต่เกิดจาก การเจริญภาวนา เป็นภาวนามยปัญญาที่เห็นการเปล่ียนแปลงการเกิดดับ ของรูปนามในแต่ละขณะ แล้วส่งผลให้สภาพจิตใจเปลี่ยนไป
สภาพจิตที่ผ่องใส มีความสว่าง มีความตั้งม่ัน มีความสงบนั้นดี อย่างไร
สภาพจิตเหล่านี้มีขอบเขตไหม มีความเป็นเราหรือเปล่า หรือ หรือ ย่ิงเห็นความไม่มีเรา ยิ่งรู้สึกมีความมั่นคง มีความต้ังมั่น มีความผ่องใส มีความผ่องใส ? ในเมื่อเห็นจิตที่มีความผ่องใส มีความสว่าง มีความสะอาดอย่างนี้แล้ว ถามว่า แล้วอารมณ์ท่ีเรียกว่าเป็นของเราเป็นเรามีอยู่หรือเปล่า ? พิจารณาดูว่า อารมณท์ เี่ ขา้ มากระทบทางตา หู จมกู ลนิ้ กาย ใจ แลว้ ทา ทา ใหเ้ รามคี วามทกุ ข์ มคีวามขนุ่มวัเศรา้หมองนนั้สว่นใหญก่จ็ะเปน็อารมณบ์ญัญตัเิปน็เรอื่งราว อารมณ์กระทบทางตาคือภาพท่ีเห็น กระทบทางหูคือเสียงท่ีได้ยิน