Page 8 - หนังสือเรียน
P. 8
๓. การตั้งชื่อเรื่อง ควรตั้งชื่อเรื่องใหดึงดูดความสนใจของผูอาน ตรงกับเรื่องที่เขียน เราใจให
อยากอาน โดยใชประโยคคําถาม คําพรรณนาใหเกิดภาพ เกิดอารมณ ใชคําคลองจอง หรือ
เลนเสียง ใชคําคม สํานวน คําพังเพย คํากลอน และสุภาษิต
๔. การเขียนโครงเรื่อง
๔.๑ การรวบรวมความคิด ผูเขียนจะตองพิจารณาเบื้องตนวา เรื่องที่เขียนควรมีเนื้อหา
อะไรบาง เมื่อคิดไดใหจดไวทุกประเด็น ขั้นตอนนี้ยังไมไดมีการกลั่นกรองเนื้อหาสาระและ
การลําดับเรื่องราว
๔.๒ การคัดเลือกประเด็นความคิด คัดเลือกเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียน
๔.๓ การจัดลําดับเนื้อหา ควรนําประเด็นเรื่องตาง ๆ มาจัดลําดับตามเหตุและผล ตามเวลา
ตามเหตุการณกอนหลัง และตามความสําคัญ ทําใหขอเขียนชัดเจนและเขาใจงาย
๕. การทบทวนและปรับปรุงโครงเรื่องใหสมบูรณ ควรทบทวนโครงเรื่องที่เขียนไววา มีประเด็น
ความคิดครบถวนหรือไม แลวพิจารณาตัดหรือเสริมใหเหมาะสม
ู
๖. การแสวงหาและรวบรวมความร โดยคนควาหาขอเท็จจริง หลักฐาน และรายละเอียดตาง ๆ
จากแหลงความรู เชน หนังสือพิมพ วารสาร การสัมภาษณผูรูผูเชี่ยวชาญ การสนทนากับบุคคลอื่น
การบันทึกขอมูลเหตุการณจากสถานการณจริง และสื่อขอมูลสารสนเทศตาง ๆ
การเรียบเรียง
การเขียนเรียงความมีองคประกอบ ๓ สวน คือ คํานํา เนื้อเรื่อง และสรุป
๑. คํานํา เปนสวนแรกที่บอกใหผูอานทราบวา ผูเขียนจะเขียนเรื่องอะไร เพื่อนําใหผูอานสนใจอาน
เรื่องตอไป เชน ควรเริ่มเรื่องอยางตรงไปตรงมา โนมนาวและชักจูง หรืออาจใหแงคิดคติเตือนใจ
และใหคําจํากัดความ เปนตน
๓