Page 62 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.
P. 62
134 งานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 1
14
จะพัฒนำไทยแลนด์ 4.0 จะต้องพัฒนำประเทศภำยใต้โมเดล “ประเทศไทย 4.0” จะส่ำเร็จ ใช้แนวทำง เจริญในชีวิตคือ จักร 4 ในเส้นทำงของควำมส่ำเร็จมีหลักอิทธิบำท 4 คนที รู้จักใช้รู้จักหำทรัพย์นับว่ำเป็น
15
“สำนพลังประชำรัฐ” เป็นตัวกำรขับเคลื อน โดยมุ่งเน้นกำรมีส่วนร่วมของภำคเอกชน ภำคกำรเงินกำรธนำคำร คนมีหลักธรรมเป็นแง่คิดเตือนจิตใจ หลักธรรมอ่ำนวยสุขนั้นคือ ทิฏฐธัมมิกกัตถ 4 เป็นบุคคลที่ควรยึดถือ
16
ภำคประชำชน ภำคสถำบันกำรศึกษำ มหำวิทยำลัยและสถำบันวิจัยต่ำงๆ ร่วมกันระดมควำมคิด ผนึกก่ำลังกัน เอามาเป็นแบบอย่าง คือคนถือหลักธรรมคิหิสุข 4
ขับเคลื อน ผ่ำนโครงกำร บันทึกควำมร่วมมือ กิจกรรม หรือ งำนวิจัยต่ำง ๆ โดยกำรด่ำเนินงำนของ ”ประชำ ด่ำรงตนอยู่ด้วยหลักธรรมของผู้ครองเรือน ตำมหลักพุทธธรรมมีค่ำสอนเกี ยวกับกำรพัฒนำชีวิตอยู่
รัฐ” กลุ่มต่ำงๆ อันได้แก่ กลุ่มที 1 กำรยกระดับนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์กำรปรับแก้กฎหมำยและกลไกภำครัฐ มำกแต่ขอน่ำเสนอไว้เป็นเพียงตัวอย่ำงคือ หลักธรรมมีอุปกำระมำก 2 ได้แก่ 1.สติ ควำมระลึกได้ 2 .
17
พัฒนำคลัสเตอร์ภำคอุตสำหกรรมแห่งอนำคต และกำรดึงดูดกำรลงทุน และกำรพัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำน กลุ่ม สัมปชัญญะ ควำมรู้ตัวทั วพร้อม มีหลักธรรมอันท่ำให้งดงำม 2 ประกำร มี 1.ขันติ ควำมอดทน 2.โสรัจ
18
ที 2 กำรพัฒนำกำรเกษตรสมัยใหม่และกำรพัฒนำเศรษฐกิจฐำนรำกและประชำรัฐ กลุ่มที 3 กำรส่งเสริมกำร จะ ควำมสงบเสงี ยม ท่ำให้คนเต็มคน เพื่อให้สังคมคนเราอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขจึงต้องปฏิบัติตำมหลัก
ท่องเที ยวและไมล์ กำรสร้ำงรำยได้ และกำรกระตุ้นกำรใช้จ่ำยภำครัฐ กลุ่มที 4 กำรศึกษำพื้นฐำนและพัฒนำ ศีลธรรม 5 มีชีวิตต้องการเป็นอยู่ตลอด จะมีชีวิตรอดได้ด้วยกำรศึกษำ ในภำษำพระว่ำหลักอริยมรรคมี
19
ผู้น่ำ (โรงเรียนประชำรัฐ) รวมทั้งกำรยกระดับคุณภำพวิชำชีพ และกลุ่มที 5 กำรส่งเสริมกำรส่งออกและกำร องค์ 8 โดยภำพรวมก็คือ ศีล ได้แก่ สัมมำวำจำ สัมมำกัมมันตะ และสัมมำอำชีวะ ส่วน สมำธิ ได้แก่
20
ลงทุนในต่ำงประเทศ รวมทั้งกำรส่งเสริมกลุ่ม SMEs และผู้ประกอบกำรใหม่ (Start Up) ซึ งแต่ละกลุ่มก่ำลังวำง สัมมำวำยำมะ สัมมำสติ และสัมมำสมำธิ และท้ำยสุดคือปัญญำ ได้แก่ สัมมำทิฏฐิ และสัมมำสังกัปปะ
ระบบและก่ำหนดแนวทำงในกำรขับเคลื อนนโยบำยอย่ำงเข้มข้น กำรพัฒนำตำมกระแสธรรมเหล่ำนี้ถือว่ำเป็นแก่นสำรทำงพุทธธรรม เพื อพัฒนำตนเองให้หลุดพ้นเป็นอิสระ
21
ตำมหลักพุทธธรรมที มีกำรพัฒนำไปถึงเส้นชัยคือนิพพำน
พุทธศาสนากับการพัฒนาสังคมไทยแลนด์ 4.0 พระพุทธศำสนำก็เริ มสูญเสียบทบำทที มีต่อกำรพัฒนำประเทศอย่ำงที เคยเป็นมำ เนื องจำกสังคมไทย
กำรด่ำเนินชีวิตของคนเรำต้องมีกำรพัฒนำร่ำงกำยและสติปัญญำควบคู่กันไปพร้อมสรรพ ศำสนำมี ไปต้อนรับวัฒนธรรมตะวันตก สังคมไทยเริ มมีปัญหำมำกยิ งขึ้น โดยเฉพำะกำรรับเอำควำมเจริญก้ำวหน้ำแบบ
หลักธรรมค่ำสอนให้ก่อเกิดกำรพัฒนำทำงด้ำนจิตใจ พระพุทธศำสนำมีหลักพุทธธรรมที สอนเกี ยวกับกำร ตะวันตกเข้ำมำ ทั้งนี้เพรำะสังคมไทยไม่ได้มีภูมิหลังและรำกฐำนควำมเจริญทำงสังคมอุตสำหกรรม และไม่มี
พัฒนำจิตใจคนเรำเพื อเป้ำหมำยคือควำมสงบสุข พอมีประเด็นส่ำคัญดังนี้ 1).ด้ำนพัฒนำคนให้มีปัญญำ วัฒนธรรมอุตสำหกรรมแบบตะวันตก ท่ำให้สังคมไทยมีสภำพที นักวิชำกำรเรียกว่ำ “ทันสมัยแต่ไม่พัฒนำ-
คนเรำมีองค์ประกอบอยู่หลำยประกำรในส่วนส่ำคัญที สุดถือว่ำเป็นคุณสมบัติพิเศษสุดคือปัญญำ ที ต้องพัฒนำ modernization without development" กระบวนทัศน์ในกำรพัฒนำประเทศภำยใต้ “ประเทศไทย 4.0”
ให้รู้เท่ำทัน กำรพัฒนำปัญญำจะได้ขยำยน่ำนฟ้ำของควำมรู้ที กว้ำงไกลมีผลต่อกำรด่ำเนินชีวิตคนเรำให้อยู่รอด เป็นอีกนโยบำยหนึ งที เป็นกำรวำงรำกฐำนกำรพัฒนำประเทศในระยะยำว เป็นจุดเริ มต้นในกำรขับเคลื อนไปสู่
ในทุกสถำนกำรณ์ในจุดสูงสุดคือกำรเข้ำถึงพุทธภำวะ 2).ด้ำนสัจธรรมเพื อชีวิต เมื อคนเรำได้ศึกษำเรียนรู้ กำรเป็นประเทศที มั งคั ง มั นคง และยั งยืน ตำมวิสัยทัศน์รัฐบำล เป็นรูปแบบที มีกำรผลักดันกำรปฏิรูปโครงสร้ำง
ธรรมชำติของวิถีชีวิตอันเป็นกระบวนกำรของชีวิตคือ พฤติกรรมสัมพันธ์ กำย จิต และปัญญำ ทั้ง 3 ส่วนล้วน เศรษฐกิจ กำรปฏิรูปกำรวิจัยและกำรพัฒนำ และกำรปฏิรูปกำรศึกษำไปพร้อมๆ กัน เป็นกำรผนึกก่ำลังของ
อิงอำศัยกันอยู่ เพรำะปัญญำจะพัฒนำขึ้นมำแบบไร้จุดหมำยไม่ได้ ด้วยทุกอย่ำงต้องอิงอำศัยกันและกัน ทุกภำคส่วนภำยใต้แนวคิด “ประชำรัฐ” ที ผนึกก่ำลังกับเครือข่ำยพันธมิตรทำงธุรกิจ กำรวิจัยพัฒนำ และ
พฤติกรรมมีฐำนอยู่ที จิตใจ จิตใจเป็นฐำนก่อให้เกิดปัญญำ เมื อจิตใจมั นคงปัญญำย่อมเกิด โดยเฉพำะเรำจะ บุคลำกรทั้งในและระดับโลก นี เป็นแนวคิดทิศทำงกำรพัฒนำประเทศเพื อก้ำวเข้ำสู่โมเดล “ประเทศไทย 4.0”
พัฒนำตนเองตำมแนวทำงพระพุทธศำสนำหรือ ตำมแนวคิดทำงพุทธศำสตร์ กำรพัฒนำตนเป็นกำรเรียนรู้และ ของรัฐบำลในปัจจุบัน จะเป็นได้จริงแค่ไหนไม่ใช่คอยติดตำมอย่ำงเดียว แต่ต้องช่วยกันทุกฝ่ำย คนละไม้คนละ
กำรปฏิบัติเพื อไปสู่ควำมพอดี หรือกำรมีดุลยภำพของชีวิต มีควำมสัมพันธ์อันกลมกลืนระหว่ำงกำรด่ำเนินชีวิต
ของบุคคล กับสภำพแวดล้อมและมุ่งกำรกระท่ำตนให้มีควำมสุขด้วยตนเอง รู้เท่ำทันตนเอง เข้ำใจตนเอง
มำกกว่ำกำรพึ งพำอำศัยวัตถุ จึงเป็นแนวทำงกำรพัฒนำชีวิตที ยั งยืน หลักกำรพัฒนำตนตำมแนวพุทธศำสตร์
14
ที.ปำ.11/400
12
ประกอบด้วยสำระส่ำคัญ 3 ประกำร คือ ทมะ สิกขำ และภำวนำ มีเพื อข้ำมพ้นมำยำคติเห็นแจ้งในสัจธรรม 15 องฺ.อฏฐก. 23/144
ดังกล่ำว ได้แก่ เป็นคนเป็นตัวอย่างที่ดี ถือว่ำเป็นบุคคลมีคุณสมบัติของคนดี ภำษำพระว่ำ สัปปุริสธรรม 16 องฺ.จตุกฺก. 21/62
7 , ตำมหลักธรรม 4 ด้ำนคนไปถึงเส้นชัยในชีวิต มีวิถีชีวิตที่เจริญก้าวหน้าได้นั้นมีหลักธรรมแห่งควำม 17 ที.ปำ. 11/378
13
18 องฺ.ทุก. 20/410
19 ที.ปำ. 11/286
12 พระเทพเวที (ป.อ.ปยุตโต, 2532)กำรพัฒนำตนเองTheir own development, [ออนไลน์], แหล่งข้อมูล: 20 ที.ม. 10/ 299
http://theirowndevelopment.blogspot.com/2013/07/blog-post_8604. , [19 กรกฎำคม 2559]. 21 อุทัย(ยูมิ) เอกสะพัง “พระพุทธศาสนากับการพัฒนาที่ยั่งยืน, [ออนไลน์], แหล่งข้อมูล:
13 ที.ปำ. 11/331 https://www.gotoknow.org/posts/470916, [19 กรกฎำคม 2560].