Page 57 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.
P. 57

129
                                                                 วิทยาลัยสงฆ์นครน่านฯ เฉลิมพระเกียรติฯ



 หำกมองดูสภำพสังคมไทยในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ำแม้ชำวไทยเรำส่วนใหญ่จะเป็นพุทธศำสนิกชน  เอกลักษณ์ของคนไทยที ไม่เหมือนกับชำติอื น ๆ ที เป็นเอกลักษณ์เด่นได้แก่ รักควำมเป็นอิสระ และควำมมีน้่ำใจ
 ดังกล่ำวแล้ว แต่ส่วนใหญ่มักเป็นกันตำมจำรีตประเพณี หรือเป็นพุทธศำสนิกชนตำมส่ำมะโนครัว มักไม่ค่อยได้  ไมตรี
 4
 มีโอกำสได้เรียนรู้ ได้ศึกษำพระพุทธศำสนำได้เท่ำที ควร ทั้งนี้ย่อมสืบเนื องมำจำกสำเหตุหลำยประกำรด้วยกัน            8) พระพุทธศำสนำในฐำนะเป็นมรดกของชำติ หลักฐำนทำงคัมภีร์และศำสนำวัตถุ ซึ งนัก
            ประวัติศำสตร์โบรำณคดีเชื อว่ำ พระพุทธศำสนำได้เข้ำมำเผยแพร่ในดินแดนสุวรรณภูมิก่อน พ.ศ. 500 แต่

 ความส าคัญของพระพุทธศาสนากับสังคมไทย   ศรัทธำควำมเชื อของปุถุชนก็เป็นไปตำมยุคสมัย พระพุทธศำสนำจึงรุ่งเรืองและเสื อมลงตำมกำลสมัยด้วย
 พระพุทธศำสนำถือได้ว่ำเป็นศำสนำประจ่ำชำติ และอยู่เคียงคู่กับชำติไทยมำโดยตลอด ดังนั้น  จนกระทั งพ่อขุนศรีอินทรำทิตย์ได้สถำปนำกรุงสุโขทัยและรับเอำพระพุทธศำสนำเป็นศำสนำประจ่ำชำติ ครั้น
 พระพุทธศำสนำจึงมีควำมส่ำคัญต่อสังคมไทย พอสรุปได้ดังนี้      รำว พ.ศ. 1836 พ่อขุนรำมค่ำแหงมหำรำชได้ อำรำธนำพระสงฆ์ลังกำวงศ์จำกนครศรีธรรมรำชไปกรุงสุโขทัย
 5
       1) พระพุทธศำสนำเป็นหลักในกำรด่ำเนินชีวิตของคนไทย เพรำะคนไทยน่ำหลักธรรมมำ  และอุปถัมภ์พระพุทธศำสนำจนมั นคงยืนนำนมำในปัจจุบันนี้
 ประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจ่ำวัน และลักษณะนิสัยของคนไทยมีจิตใจที ดีงำมในทุก ๆ ด้ำน มีควำมเป็นมิตรกับ        9) พระพุทธศำสนำในฐำนะที ช่วยสร้ำงสรรค์อำรยธรรม ชนชำติหนึ ง ๆ นอกจำกมีหน้ำที ต้อง
 ทุกคน เป็นต้น    พัฒนำประเทศชำติของตนเองแล้ว ก็พึงมีส่วนร่วมในกำรสร้ำงสรรค์และส่งเสริมอำรยธรรมโลกด้วย ชนชำติไทย
       2) พระพุทธศำสนำเป็นหลักในกำรปกครองประเทศ กษัตริย์ทุกพระองค์ของไทยได้น่ำเอำ  เป็นชนชำติที เก่ำแก่มำกชนชำติหนึ ง มีวัฒนธรรมที เจริญก้ำวหน้ำอย่ำงสูงมำตลอดเวลำยำวนำน จึงได้มีส่วนร่วม

 หลักธรรมพระพุทธศำสนำไปใช้ในกำรปกครองประเทศ เช่น ทศพิธรำชธรรม ตลอดมำ หรือใช้หลัก   ในกำรสร้ำงเสริมอำรยธรรมของโลกด้วย แม้ว่ำจะอยู่ในขอบเขตที ไม่กว้ำงนัก ส่วนร่วมที ว่ำนี้ก็คือ
 “ธรรมำธิปไตย” และหลักอปำริหำนิยธรรม เป็นหลักในกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตย เป็นต้น   ศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ งพัฒนำขึ้นมำจนมีแบบแผนเป็นของตนเอง อย่ำงที เรียกว่ำมีเอกลักษณ์ของควำมเป็นไทย
       3) พระพุทธศำสนำเป็นศูนย์รวมจิตใจ เนื องจำกหลักธรรมในพระพุทธศำสนำมุ่งเน้นให้เกิด  เด่นชัด ศิลปวัฒนธรรมไทยเหล่ำนี้มีรำกฐำนมำจำกพระพุทธศำสนำเป็นส่วนใหญ่
 ควำมรักควำมสำมัคคีกัน มีควำมเมตตำกรุณำต่อกัน เป็นต้น จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชนชำวไทยให้มีควำมเป็น        10) พระพุทธศำสนำในฐำนะที ช่วยสร้ำงควำมสงบสุขให้แก่โลก พระพุทธศำสนำเป็นรำกฐำน

 หนึ งเดียวกัน   อำรยธรรมที ส่ำคัญของโลกดังได้กล่ำวมำแล้ว พระพุทธศำสนำยังช่วยสร้ำงควำมสงบสุขให้แก่ชำวโลกได้ หำก
       4) พระพุทธศำสนำเป็นที มำของวัฒนธรรมไทย ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับ  ศึกษำในประวัติศำสตร์พระพุทธศำสนำมีทั้งกำรสร้ำงสรรค์อำรยธรรมและสันติภำพแก่มวลมนุษย์ นั นคือ
 พระพุทธศำสนำ จึงเป็นกรอบในกำรปฏิบัติตนตำมหลักพิธีกรรมในพระพุทธศำสนำต่ำง ๆ เช่น กำรบวช กำร  พระพุทธศำสนำเกิดขึ้นในประเทศอินเดียหรือชมพูทวีป พระพุทธศำสนำได้ก่อให้เกิดกำรเปลี ยนแปลงในสังคม
 แต่งงำน กำรท่ำบุญเนื องในพิธีกำรต่ำง ๆ กำรปฏิบัติตนตำมประเพณีในวันส่ำคัญทำงพระพุทธศำสนำ เป็นต้น   อินเดีย กล่ำวคือสังคมอินเดียเคยนับถือพระพรหมเป็นเทพเจ้ำสูงสุด ผู้สร้ำงผู้บันดำลทุกสิ ง มีกำรบูชำยัญเทพ

 ซึ งเป็นส่วนที ก่อให้เกิดวัฒนธรรมไทยจนถึงปัจจุบัน   เจ้ำ แล้วก็มีกำรก่ำหนดมนุษย์เป็นวรรณะต่ำง ๆ โดยชำติก่ำเนิด เป็นกษัตริย์ เป็นพรำหมณ์ เป็นแพศย์ เป็นศูทร
       5) พระพุทธศำสนำในฐำนะเป็นสถำบันหลักของสังคมไทย พระพุทธศำสนำ เป็นศำสนำที   แล้วก็ถือว่ำพรำหมณ์เป็นผู้ที ติดต่อสื อสำรกับเทพเจ้ำกับพระพรหม เป็นผู้รู้ควำมต้องกำรของพระองค์ เป็นผู้รับ
 สังคมไทยส่วนใหญ่นับถือ และสืบทอดกันมำเป็นช้ำนำน ดังนั้นพระพุทธศำสนำจึงมีบทบำทส่ำคัญของวิถีชีวิต  เอำค่ำสอนมำรักษำ มีกำรผูกขำดกำรศึกษำให้อยู่ในวรรณะสูง คนวรรณะต ่ำเรียนไม่ได้ เป็นต้น เมื อ

 ของคนไทย พระพุทธศำสนำจึงมีควำมส่ำคัญในด้ำนต่ำง ๆ ทั้งด้ำนกำรศึกษำ ด้ำนสังคม และด้ำนศิลปกรรม   พระพุทธศำสนำเกิดขึ้น ท่ำให้เกิดกำรเปลี ยนแปลงในเรื องเหล่ำนี้อย่ำงมำกมำย เช่น เรื อง วรรณะ 4
       6) พระพุทธศำสนำในฐำนะเป็นรำกฐำนของวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันอยู่อย่ำง  พระพุทธศำสนำไม่ยอมรับ แต่ให้ถือหลักว่ำ “คนมิใช่ประเสริฐหรือต ่ำทรำมเพรำะชำติก่ำเนิด แต่จะประเสริฐ
 แนบแน่นกับพระพุทธศำสนำ ซึมแทรกผสมผสำนอยู่ในแนวควำมคิด จิตใจและกิจกรรมแทบทุกก้ำวของชีวิต  หรือต ่ำทรำมเพรำะกำรกระท่ำ” แล้วก็ไม่ให้มัวหวังผลจำกกำรอ้อนวอนบูชำยัญ สอนให้เปลี ยนกำรบูชำยัญหรือ
 โดยตลอดเวลำยำวนำน โดยยังคงเนื้อหำสำระเดิมที บริสุทธิ์ไว้ได้ก็มี ถูกดัดแปลงเสริมแต่งตลอดจนปนเปกับ  เลิกกำรบูชำยัญ ให้หันมำหวังผลจำกกำรกระท่ำ นี คือกำร “ประกำศอิสรภำพของมนุษย์”
                                                                         6
 ควำมเชื อถือและข้อปฏิบัติสำยอื นหรือผันแปรในด้ำนเหตุอื น ๆ จนผิดเพี้ยนไปจำกเดิมก็มำก   พระพุทธศาสนากับการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development)
       7) พระพุทธศำสนำในฐำนะเป็นเอกลักษณ์ของชำติ กำรที พระพุทธศำสนำอยู่กับคนไทยมำช้ำ  กำรพัฒนำที ยั งยืน ( Sustainable Development) หมำยถึง “กำรตอบสนองควำมต้องกำรของคนรุ่น
 นำน จึงก่อให้เกิดกำรซึมซำบเอำหลักปฏิบัติของพระพุทธศำสนำให้เป็นส่วนหนึ งของชีวิต ก่อให้เกิดควำมเป็น  ปัจจุบัน โดยไม่มีผลกระทบในทำงลบต่อควำมต้องกำรของคนรุ่นต่อไปในอนำคต”

 4  พิทูร มลิวัลย์ และไสว มำลำทอง, ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา, (กรุงเทพมหำนคร: โรงพิมพ์กำรศำสนำ, 2542),
 หน้ำ 3            6  ชัยอนันต์ สมุทวณิช แปล, UNDP, Public Sector Management, Governance, and Sustainable
 5  พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต), ความส าคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจ าชาติ, พิมพ์ครั้งที  10,    Development (New York, 1995), ประชารัฐกับการเปลี่ยนแปลง , (กรุงเทพมหำนคร: บริษัทสุขุมและบุตร จ่ำกัด, 2541),
 (กรุงเทพมหำนคร: สหธรรมิก, 2543), หน้ำ 9–10.   หน้ำ. 57-63.
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62