Page 130 - E-BOOK ความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง
P. 130

  ผู้ช่วยเหลือไม่ควรพยายามกําจัดนํ้าในตัวผู้ป่วยออกด้วยวิธีการอุ้มพาดบ่าแล้วกระทุ้งเอานํ้าออก

               เพราะนํ้าที่ไหลออกจากการกระทุ้งนั้นอาจไม่ใช่นํ้าที่ค้างในปอด แต่อาจเป็นนํ้าจากกระเพาะอาหาร ซึ่งการ
               ปฏิบัติดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ป่วยตามมาได้

                       2.7    อาการสําลัก

                       การสําลักเกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปติดค้างอยู่ในลําคอหรือกีดขวางหลอดลม สังเกตเห็นได้จาก

               อาการบางอย่าง เช่น เล็บ ริมฝีปาก และผิวหนังของผู้ป่วยคลํ้าหรือเปลี่ยนเป็นสีเขียว พูดไม่มีเสียงหายใจลําบาก
               หายใจเสียงดัง ไม่สามารถไอแรง ๆ หรือหมดสติ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นควรทําโดยทันที เนื่องจากการสําลัก

               จะทําให้สมองขาดออกซิเจน โดยปฏิบัติดังนี้

                         ตบหลัง 5 ครั้ง ระหว่างกระดูกสะบักของผู้ป่วยด้วยส้นมือ โดยผู้ช่วยเหลือควรเรียนเทคนิคการตบ
               หลังก่อนการช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นให้ใช้วิธีการกดกระแทกที่ท้องแทน หรือจะทํา 2 วิธีสลับกันก็ได้

                         กดกระแทกที่ท้อง (Abdominal Thrusts) 5 ครั้ง ควรทําก่อนการขอความช่วยเหลือ โดยให้ยืนข้าง

               หลัง เอาแขนรัดรอบเอว แล้วโน้มตัวผู้ป่วยไปด้านหน้าเล็กน้อย กําหมัดแล้ววางไว้ตรงสะดือของผู้ป่วย จากนั้น

               ใช้มืออีกข้างจับที่หมัด แล้วกดลงแรงและเร็วที่ท้องของผู้ป่วย ให้เหมือนกับกําลังพยายามยกตัวผู้ป่วยขึ้น วิธีนี้
               สามารถทําซํ้าจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา และสามารถใช้ได้กับเด็กที่มีอายุมากกว่า 1 ปีและผู้ใหญ่

                         ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นทารกที่อายุตํ่ากว่า 1 ปี ให้ผู้ช่วยเหลือวางท้องแขนลงบนหน้าตัก จับผู้ป่วยอยู่ใน

               ท่านั่ง แล้ววางใบหน้าของผู้ป่วยลงบนท้องแขน จากนั้นค่อย ๆ ทุบลงกลางหลังให้แรงมากพอจะทําให้สิ่ง
               แปลกปลอมหลุดออกมาได้

                         หากยังไม่ได้ผลให้ใช้ 2 นิ้ววางตรงกลางกระดูกหน้าอก และปั๊มหัวใจ 5 รอบแบบเร็ว ๆ ทําซํ้า

               จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา ในกรณีที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมขวางทางเดินหายใจ หากทารกหยุดหายใจ
               ให้รีบติดต่อขอความช่วยเหลือแล้วจึงทํา CPR



                       ติดต่อสายด่วนช่วยชีวิต

                       ผู้ช่วยเหลือที่พบผู้ป่วยกําลังต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน ให้ตั้งสติ และติดต่อแจ้งเหตุ
               ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135