Page 9 - การเสวนามโนทัศน์ที่คาดเคลื่อนในการวิจัย
P. 9
ื
้
ตอบค าถามโดย รศ.ดร.สมบัติ ทายเรอค า :
ั
ื
่
่
่
ี
่
ิ
ี
ี
ส าหรบเรองทเกยวกับนักเรยนทมความบกพรองทางสมองต้องนยาม เพือหาส่งรองรบความหมาย
ั
ี
ิ
ี
่
่
ิ
ี
นั้นจากหนังสอรบรอง ถ้านักเรยน ชั้น ป. 5 ไม่ต้องนยาม
ื
ั
ิ
ั
ี
่
เสรมประเด็นจาก รศ.ดร. ทรงศกดิ ภูสออน :
์
ิ
ในประเด็นการนยามศัพท์ ตามความหมายสามารถเปลยนแปลงค่าได้ ในการทดลองไม่ควรจะเขียน
ี่
ึ
ุ
็
ตัวแปรต้นคือ ชดฝกให้เปลยนเปนการใช้ชดฝกก่อนใช้กับหลังใช้
ึ
ุ
ี
่
ั
์
เพิ่มเติมประเด็นนิยามศพทจาก ผศ.ดร.ไพศาล วรค า :
้
็
ี
ู
่
ิ
ิ
การนยามศัพท์ต้องใช้รายละเอยดให้รว่าค าศัพท์นั้นเปนค านาม ค ากรยา หรอเปนอะไร ตัวอย่างเชน
็
ื
ิ
ู
ิ
ึ
็
ึ
ี
ิ
่
รปแบบบรหารสถานศกษา หมายถง การด าเนนงานศกษาต่างๆจะมองเหนว่า เขาจะใสรายละเอยดเพื่อให้
ึ
็
่
ิ
มองเหนได้ชัดขึ้น เน้นว่าการนยามศัพท์จะต้องใสรายละเอยดและความใสใจให้มาก
ี
่
ี
่
์
้
่
ั
กลาวค าถามจากทางบานโดย รศ.ดร. ทรงศกดิ ภูสออน :
ื
ิ
ถาม : การตั้งสมมตฐานทุกคร้งต้องใช้สถตทดสอบหรอไม่
ิ
ั
ิ
ิ
์
ตอบ (รศ.ดร.ปกรณ ประจัญบาน) : ก่อนจะตอบได้ต้องท าความเข้าใจของสมมตฐานทางวจัยและสมมตฐาน
ิ
ิ
ทางสถตก่อน เพราะทั้งสองตัวมความไม่เหมอนกัน เวลาทตั้งสมมตฐานต้องเร่มตั้งจากสมมตฐานทางวจัย
ื
่
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
และสมมตฐานทางวจัยจะน าไปตรวจสอบสมมตฐานทางสถต ในการตั้งสมมตฐานพิจารณาก่อนว่างานวจัย
ิ
ิ
ื
็
ี
่
ิ
ิ
่
นั้น จะน าไปสการทดลองสมมตฐานทางสถตหรอเปล่า ถ้าไม่เกยวข้องก็ไม่จ าเปนต้องตั้งสมมตฐานทใช้
ิ
ู
่
ี
ิ
สถตทดสอบและขึ้นอยูกับประเภทของงานวจัยด้วย
ิ
่
ิ
ิ
กรอบแนวคิดของงานวิจัย
์
รศ.ดร.ปกรณ ประจัญบาน :
ิ
ิ
ิ
่
ข้อผดแรกทเจอบ่อยมากเกยวกับกรอบแนวคิดของงานวจัยทั้งผลงานวจัยทางวชาการของคร
ู
่
ี
ิ
ี
ิ
ี
งานวิทยานพนธ์ คือ เข้าใจว่ากรอบแนวคิดของงานวจัยเปนแผนภาพเดยวกันกับขั้นตอนการวจัย ชอบเขียน
็
ิ
ิ
็
มาเปนอันเดยวกันในความเปนจรงมันไม่ถูกต้อง แผนภาพและขั้นตอนการวจัยเปนคนละสวนกันไม่สามารถ
ิ
่
ิ
็
็
ี
เขียนเปนความหมายอันเดยวกันได้
็
ี
่
ี
์
ื
ั
ิ
ี
่
่
กรอบแนวคิดของกระบวนการทางวทยาศาสตร 5 ขั้น จะอยูในขั้นท 1 และขั้นท 2 เมอเรามปญหา
่
ี
็
ี
่
ู
ู
ี
่
ิ
้
มกรอบแนวคิดอย่างชัดเจนมองค์ความร น าไปสการตั้งสมมตฐานเพือหาค าตอบล่วงหน้า น าสวนน้ไปเปน
่
ี
กรอบแนวคิดงานวจัย สวนขั้นตอนงานวจัยน าไปเขียนเปนแผนภาพล าดับขั้นเปนขั้นท 3 และขั้นท 4 ของ
ิ
่
็
็
่
ี
ี
่
ิ
์
กระบวนการทางวิทยาศาสตร