Page 205 - Publicationa15
P. 205
ระบอบประชาธิปไตยในอุดมคติ 197
น�ามาเป็นข้ออ้างในการท�าลายล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
หลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา
3) การขัดแย้งกันในทางการเมืองและในทางอื่นๆ เป็นที่ทราบกันดีว่า
การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น แต่ละคนสามารถแสดงความเห็น
ของตนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ความคิดเห็นไม่ตรงกันจึงเป็นเรื่องธรรมดา
การปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงมีการถกเถียงกันเพื่อหาข้อสรุป
ที่ดีที่สุดในแต่ละเรื่อง มีฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายเสียงข้างน้อยต้องฟัง
ฝ่ายเสียงข้างมาก และฝ่ายเสียงข้างมาก ต้องเคารพหรือให้เกียรติเสียงข้างน้อย
ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มิใช่มีฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายแค้น
เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ ทุ่มเทถกเถียงเอาชนะกัน แถมมีการเมืองนอกระบบ
การเมืองภาคประชาชน การเมืองข้างถนน ยึดท้องถนน ยึดท�าเนียบ ยึด
สนามบิน สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และ
สังคมอย่างคณานับตลอดจนสร้างความเบื่อหน่ายให้กับบุคคลทุกหมู่เหล่า
จนบางครั้งเกือบจะใช้ก�าลังเข้าโรมรันกัน จนท�าให้ฝ่ายที่ไม่ปรารถนาดีต่อ
ระบอบประชาธิปไตย น�ามาเป็นข้ออ้างในการยึดเมืองมาแล้ว
4) ขาดความรับผิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
ในปัจจุบันส่วนมากขาดความรับผิดชอบงานในหน้าที่ของตน คือ หน้าที่
นิติบัญญัติ เป็นเหตุให้ที่ประชุมไม่ครบองค์ประชุมท�ากิจกรรมต่อไปไม่ได้
สร้างความเอือมระอาให้กับประชาชนอย่างมาก เป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายอ�านาจแฝง
และฝ่ายที่ไม่นิยมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยน�าไปโจมตี สร้างความ
เสื่อมเสียให้กับระบอบฯ และนักการเมืองโดยรวม
5) อ�านาจอธิปไตยไม่ได้เป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริงจาก
24 มิถุนายน 2475 ถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าอ�านาจอธิปไตยมิได้เป็นของ
ประชาชนอย่างแท้จริง เป็นเพียงแต่ในนามเท่านั้น อ�านาจอธิปไตยเป็นของ
กลุ่มคน ของบุคคล หรือกลุ่มผลประโยชน์เสียเป็นส่วนมากท�าให้ประชาชนเกิด
ความเบื่อหน่ายการเมือง ไม่สนใจการเมือง เป็นโอกาสให้เกิดการทุจริต
คอร์รัปชั่นอย่างสูง และหาตัวคนกระท�าการทุจริตไม่ได้ การปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย อ�านาจต้องเป็นของประชาชนหรือเรียกว่าประชาชนเป็นใหญ่
_17-0315(178-202)9.indd 197 4/27/60 BE 11:57 AM