Page 222 - Publicationa15
P. 222
214 วราภรณ์ มีเปรมปรีด์
2. สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกวุฒิสภาร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรจ�านวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจ�านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ
ทั้งสองสภา มีสิทธิเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานวุฒิสภาหรือประธานรัฐสภา
แล้วแต่กรณี แล้วให้ประธานแห่งสภานั้นส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่เห็นว่าร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา หรือร่าง
ข้อบังคับการประชุมรัฐสภามีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือตราขึ้น
โดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ภายหลังจากวุฒิสภาหรือรัฐสภาให้
ความเห็นชอบแล้ว แต่ก่อนที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา 24
3. ประธานวุฒิสภามีสิทธิเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณา
วินิจฉัยในกรณีที่เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติที่เสนอหรือส่งให้พิจารณานั้น
มีหลักการอย่างเดียวกันหรือคล้ายกันกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติ
ที่ต้องยับยั้งไว้ 25
4. สมาชิกวุฒิสภาจ�านวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจ�านวนสมาชิก
ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภามีสิทธิเข้าชื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
วินิจฉัยกรณีที่เห็นว่าการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระท�าด้วยประการใดๆ
ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วน
ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย 26
5. สมาชิกวุฒิสภาจ�านวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจ�านวนสมาชิก
ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภามีสิทธิเข้าชื่อเสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพระราชก�าหนดมิได้ออกเพื่อประโยชน์ในอันที่จะ
รักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงทาง
เศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ หรือเป็นกรณีฉุกเฉินที่มี
ความจ�าเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ 27
24 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 155
25 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 149 วรรคสอง
26 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 168 วรรคหก และ วรรคเจ็ด
27 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 185
_17-0315(203-223)10.indd 214 4/27/60 BE 11:57 AM